เสี่ยโรงน้ำแข็งเผยถูกแก๊งพงศ์พัฒน์บังคับเลิกธุรกิจ

อดีตเจ้าของสัมปทานโรงน้ำแข็งตลาดไท เข้าให้ข้อมูลตำรวจ เผยถูกเครือข่าย พงศ์พัฒน์ บีบบังคับให้เลิกทำธุรกิจ

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. เวลา 17.30 น.ที่กองบัญชาการนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรสรณ์ ธีระตระกูล อดีตเจ้าของสัมปทานโรงน้ำแข็งตลาดไท  เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ภัครพงษ์ พงษ์เภตรา รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผบก.น.5 เพื่อให้ข้อมูลนำมาประกอบพฤติกรรมการกระทำความผิดกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการแอบอ้างสถาบัน ในสำนวนคดีของสน.พระโขนงและสน.วัดพระยาไกร ทำการข่มขู่ รีดไถและ อุ้มนักธุรกิจ เครือข่ายเดียวกับนายณัฐพล สุวะดี ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่สน.วัดพระยาไกร และสน.พระโขนง ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีการข่มขู่ แอบอ้างสถาบัน บังคับไม่ให้มีการทำธุรกิจ มูลค่าความเสียหาย 24 ล้านบาท จากนั้นจึงได้เดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5)

ด้านนายไตรสรณ์ เปิดเผยก่อนการเข้าให้ปากคำว่า ทางบช.น.เชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อข้อมูลกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาดังกล่าว ภายหลังจากมีผู้จ่ายเงินประมูลสัมปทานขายน้ำแข็งในตลาดไทอย่างถูกต้องจาก นายราชเขต ณ ระนอง เจ้าของเดิมได้ประมูลมาเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท โดยตนได้จ่ายเงินเพื่อขอประมูลต่อค่าสัมปทานมาเป็นเงินจำนวน 24 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2556 เปิดร้านขายอยู่ใกล้ตลาดไท

จากนั้นทางกลุ่มผู้ต้องหาคือ นายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. โดยมีนางเล็ก ไม่ทราบนามสกุล เจ้าของร้านน้ำแข็ง ได้เข้ามาเปิดร้านขายน้ำแข็งตัดราคาจากก้อนละ 40 บาท ขายตัดราคาเหลือก้อนละ 25 บาท เพื่อกดดันให้ผู้เสียหายยกเลิกกิจการดังกล่าว โดยนายชากานต์นำคนมาอีกประมาณ 4-5 คน เข้ามาคุย โดยมีการอ้างสถาบันเบื้องสูง พร้อมระบุว่า หากไม่ยกเลิกกิจการก็จะลำบาก จึงทำให้เจ้าของตลาดไทยไม่กล้าว่าอะไร จนกระทั่งตนตัดสินใจต้องยกเลิกการทำกิจการดังกล่าวไป

จากนั้นทางกลุ่มของผู้ต้องหาจึงได้นำพรรคพวกมาดำเนินการเข้าทำกิจการแทน ตนจึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง เพื่อเป็นหลักฐาน

บรรยายภาพ : กลุ่มผู้ต้องหา เครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์