posttoday

โฆษก พส.เตือนสติเจ้าอาวาส

23 พฤศจิกายน 2557

สมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เขียนบทความเรื่อง เจ้าอาวาสเป็นพระสังฆาธิการ ว่า

สมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เขียนบทความเรื่อง เจ้าอาวาสเป็นพระสังฆาธิการ ว่า

บวชเป็นพระภิกษุมีศีลมีวินัยที่เคร่งครัด ทำให้ปฏิบัติตนยากในสังคมปัจจุบันที่เน้นเรื่องวัตถุมากกว่าคุณความดีใดๆ แต่หากพระภิกษุนั้นมีตำแหน่งเป็นพระสังฆาธิการ นอกจากต้องรักษาพระวินัยมิให้ขาดตกบกพร่องแล้ว พระคุณเจ้ายังต้องรักษาหน้าที่ภาระที่เป็นจริยา พระสังฆาธิการหากเผลอไผลไปละเมิดเข้าย่อมต้องได้รับความลำบากกว่าพระภิกษุทั่วไป

พระสังฆาธิการ หมายถึงพระภิกษุผู้ดำรงตำแหน่งปกครองคณะสงฆ์ เรียงลำดับการปกครอง ได้แก่ เจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส

พระภิกษุที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆาธิการในตำแหน่งต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ต้องมีคุณสมบัติตรงกับที่กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ดังนี้

1.มีพรรษาสมควรแก่ตำแหน่ง เช่น เจ้าอาวาสต้องมีพรรษาพ้น 5 และเป็นผู้ทรงเกียรติคุณ เป็นที่เคารพนับถือของพระภิกษุสามเณรและชาวบ้านในถิ่นนั้น หากจะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ก็จะต้องมีพรรษาเกิน 10 พรรษา

2.มีความรู้ความสามารถ ประพฤติตนเรียบร้อย ร่างกายและจิตใจแข็งแรง ไม่เคยถูกลงโทษมาก่อน

หากดูคุณสมบัติของพระสังฆาธิการ เอาเข้าจริงคณะผู้ปกครองสงฆ์ ย่อมมีความหนักใจอยู่ไม่น้อย ในการพิจารณาคัดเลือกพระภิกษุที่จะขึ้นเป็นพระสังฆาธิการในระดับชั้นต่างๆ นอกจากนั้นพระสังฆาธิการยังมีจริยาหรือหน้าที่อันพึงกระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาทิ

“พระสังฆาธิการต้องเอื้อเฟื้อต่อกฎหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎกระทรวง กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช สังวรและปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด”

ข้อนี้มีคำว่า “ โดยเคร่งครัด” หมายถึง เป็นพระสังฆาธิการจะบอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบ หรือไม่ยอมรับไม่ได้ หากพระสังฆาธิการรูปใดออกคำสั่งใดๆ ไปแล้วไม่เป็นไปตามกฎหมาย อาจจะถูกฟ้องคดีอาญามาตรา 157 ได้ เพราะตามประมวลกฎหมายอาญา ระบุว่า เจ้าอาวาสเป็นพระสังฆาธิการมีหน้าที่ทางการปกครอง ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จริยา พระสังฆาธิการอีกข้อหนึ่งระบุว่า

“พระสังฆาธิการต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง มิให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา และห้ามมิให้ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร”

การปฏิบัติหน้าที่ของพระสังฆาธิการ โดยเฉพาะเจ้าอาวาสที่สำคัญ ได้แก่ เรื่องศาสนสมบัติของวัด ซึ่งศาสนสมบัติของวัดที่สำคัญ และมักปฏิบัติให้เกิดความเสียหาย ก็คือเงินวัดกับที่ดินของวัด เจ้าอาวาสมีหน้าที่ดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี การดูแลศาสนสมบัติของวัดท่านต้องดำเนินการตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505

การปฏิบัติเกี่ยวกับเงินวัดนั้น กฎกระทรวงระบุว่า เงินที่ได้มาเป็นของวัดถือเป็นของสงฆ์ต้องลงบัญชีรายรับ รายจ่ายทุกบาททุกสตางค์ และกฎกระทรวงยังได้ระบุไว้อีกว่า การเก็บรักษาเงินของวัดในส่วนที่เกินสามพันบาทขึ้นไป ให้เก็บรักษาโดยฝากธนาคาร และต้องฝากในนามของวัดเท่านั้น

หากว่าเจ้าอาวาสนำเงินสดของวัดจำนวนสักหนึ่งแสนบาทไปซื้อสลากออมสินและถูกรางวัลทำให้วัดมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นความดีความชอบหรือไม่ เมื่อยึดถือตามกฎกระทรวงฉบับนี้ เห็นว่าไม่มีข้อไหนระบุให้ทำ ยิ่งถ้าเป็นเงินผลประโยชน์ของวัด เจ้าอาวาสในฐานะพระสังฆาธิการยังต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยเงินผลประโยชน์ของวัด ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงิน มิให้เกิดความเสียหายแก่พระศาสนา

ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่นั้น พระสังฆาธิการต้องปฏิบัติหน้าที่และห้ามมิให้ใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ไม่สมควรพระสังฆาธิการรูปใดทุจริตต่อหน้าที่ ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควรเกินกว่า 30 วัน เป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการรูปใดละเมิดจริยาต้องได้รับโทษมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตำหนิโทษ ปลดจากตำแหน่งหน้าที่ จนถึงถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่

เพียงแค่หน้าที่ดูแลมิให้วัดสกปรกรกรุงรัง ยังลำบากเหนื่อยยากแล้ว เจ้าอาวาสยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำสั่งของคณะสงฆ์ รวมทั้งรักษาจริยา พระสังฆาธิการหลายรูปจึงลาออกจากเจ้าคณะผู้ปกครองอันเป็นตำแหน่งพระสังฆาธิการที่มีภาระธุระอันหนักและใหญ่ ที่เขียนมานี้ก็เพียงแต่มุ่งหวังขอเป็นกำลังใจแด่เจ้าอาวาสผู้เป็นพระสังฆาธิการ

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"