posttoday

ดันช่องอานม้าเป็นด่านถาวร

21 พฤศจิกายน 2557

รองปลัดกต.เตรียมเจรจากัมพูชาศรีสะเกษเล็งเปิดเขตศก.พิเศษช่องสะงำ

รองปลัดกต.เตรียมเจรจากัมพูชาศรีสะเกษเล็งเปิดเขตศก.พิเศษช่องสะงำ

ดันช่องอานม้าเป็นด่านถาวรบูมค้าชายแดนอุบลฯพ่วงช่องสะงำศรีสะเกษ เป็นเขตศรษฐกิจพิเศษ

นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. โดยประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เก็บข้อมูลปัญหาเส้นเขตแดนเพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุมร่วม ไทยกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการปักปันเขตแดนที่ยืดเยื้อและไม่สามารถแก้ไขได้มานานหลายสมัยแล้ว ยังมีเรื่องการเตรียมเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นจุดผ่านแดนถาวร

ทั้งนี้ การเปิดด่านช่องอานม้าเป็นจุดผ่านแดนถาวร จะทำให้ จ.อุบลราชธานี เป็นประตูการค้าสำคัญที่เชื่อมต่อกับประเทศลาวและกัมพูชา โดยก่อนหน้านี้มีด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร เป็นประตูการค้าเชื่อมโยงกับเมืองปากเซ แขวงจำปาสักประเทศลาวอยู่แล้ว การเปิดด่านช่องลานม้า ก็จะทำให้การค้ากับประเทศกัมพูชาพัฒนาไปมากยิ่งขึ้น

ด้าน นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า หลังจากนี้กระทรวงการต่างประเทศจะนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผลเพื่อหารือร่วมกับที่ประชุมไทยกัมพูชา รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเส้นเขตแดน การพัฒนาพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมผลักดันเปิดเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อพัฒนาพื้นที่สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี

ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังการดำเนินงานเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด รวมถึงความต้องการแรงงานของนายจ้าง สถานประกอบการ พร้อมพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีทักษะสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดที่กำลังจะเกิดขึ้นใน 4 เรื่องด้วยกัน คือ การให้สิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุน การให้บริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ รวมไปถึงมาตรการสนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าว และการพัฒนาโครงการพื้นฐาน เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับเชื่อมโยงการค้าในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ จ.ตาก มีแรงงานต่างด้าวขอรับ ใบอนุญาตทำงาน จำนวน 26,403 คน ในขณะที่ความต้องการแรงงานต่างด้าวมีมากถึง 126,851 ราย ในประเภทกิจการด้านการเกษตรและปศุสัตว์มากที่สุด รองลงมาเป็นประเภทค้าส่งค้าปลีก และงานรับใช้ในบ้าน

ขณะเดียวกัน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้ลงพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ติดตามการเตรียมความพร้อมการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสะเดา โดยมีนายธำรงค์ เจริญกุล ผวจ.สงขลา และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้า

นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ได้ติดตามความคืบหน้าในด้านต่างๆ ของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ประกอบด้วย โครงการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ โครงการปรับปรุงที่ทำการด่านศุลกากรปาดังเบซาร์พร้อมบริเวณโดยรอบ โดยระยะแรกจะปรับปรุงอาคารตรวจผู้โดยสารทั้งขาเข้าขาออก การก่อสร้างอาคารตรวจปล่อยสินค้า พร้อมปรับปรุงช่องทางจราจร ส่วนระยะที่ 2 ปรับปรุงอาคารที่ทำการด่านศุลกากรปัจจุบัน สร้างโรงพักสินค้าและโกดังเก็บของกลาง และในอนาคตมีโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ และโครงการสร้างถนนตามแนวรางรถไฟปาดังเบซาร์หาดใหญ่

“การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัด ต้องเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งวันนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรว่า การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2558” นายสุวพันธุ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"