อึ้ง!คะแนนครูคณิต-วิทย์ร่อแร่
สพฐ.เผยผลสอบวัดความสามารถครูคณิต-วิทย์มัธยมทั่วประเทศพบสอบตกทุกวิชา โดยวิชาเคมีมีครูสอบตกสูงสุดถึง64% ขณะที่ดาราศาสตร์สอบตก63%
สพฐ.เผยผลสอบวัดความสามารถครูคณิต-วิทย์มัธยมทั่วประเทศพบสอบตกทุกวิชา โดยวิชาเคมีมีครูสอบตกสูงสุดถึง64% ขณะที่ดาราศาสตร์สอบตก63%
ผลการสอบวัดความรู้ความสามารถครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายทั่วประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งปรากฏว่า ครูทั้งสองวิชาในระดับมัธยมปลาย สอบตกในทุกวิชา ขณะที่ครูระดับมัธยมต้นเกินครึ่ง หนึ่งมีคะแนนการสอบเกาะกลุ่มอยู่ในระดับสูงและปานกลาง
ภาพรวมของวิชาอื่นๆ ของครูทั้งสองระดับ ก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เช่น วิชาเคมีมีครูสอบตก 64% จากผู้เข้าสอบ 3,088 คน มีครูทำคะแนนได้ระดับสูง 23%ขณะที่วิชาโลกและดาราศาสตร์มีครูสอบตก 63% จากครูผู้เข้าสอบทั้งหมด 529 คน มีครูทำคะแนนได้ระดับสูงเพียง 0.56% ฯลฯ
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ออกมาเปรยถึงผลที่ออกมาว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่กระทรวงสอบวัดความรู้ครูครั้งใหญ่ทั่วประเทศเพื่อจะได้พัฒนาครูให้ครบวงจรทั้งระบบ การประเมินครั้งนี้ทำให้เห็นชัดว่าครูวิทย์ คณิต ม.ปลาย จำเป็นจะต้องถูกยกระดับอย่างเร่งด่วน เพราะหากผลออกมาเช่นนี้ไม่ทราบจะยกระดับคุณภาพนักเรียนได้อย่างไร"
นายวรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะกรรมการที่ปรึกษา โครงการผลิต ครูพันธุ์ใหม่ระบุว่า การวัดความรู้ครู เป็นหนึ่งในมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพผู้สอน ที่หากเจาะลึกลงๆไปใน รายละเอียด ก็จะพบว่า กลุ่มครูที่ทำคะแนนได้ดี หรือผ่านเกณฑ์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นครูที่มาจากโรงเรียน ในเขตเมือง ขณะที่เมื่อนำคะแนนของครูทั่วประเทศมารวมกัน แล้วเรียงให้เห็นภาพทั้งหมด หรือกระทั่งคิดเป็นค่าเฉลี่ยก็จะได้ตัวเลขที่น่ากังวลสำหรับทุกฝ่าย
“สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของการขาดแคลนครูในวงกว้าง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าครูที่มีความรู้เฉพาะทาง โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ หรือแม้แต่ที่เรียนจบคณะครุศาสตร์ ในวิชาเอกดังที่ได้กล่าวไปแล้ว มีจำนวนน้อย เพราะเรียนยาก ทั้งนี้เป็นผู้ที่เรียนจบด้านนี้ แต่ละปี นอกจากเลือกทำงานอื่นที่ไม่ใช่ครูอยู่แล้ว ก็ยังมีเรื่องของการกระจุกตัวการเลือกทำงาน เลือกใช้ชีวิตเฉพาะในเขตเมือง เข้ามามีส่วนอีกด้วย
อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องอัตราของครูเกษียณ ที่รัฐไม่ได้คืนตำแหน่งให้มีการบรรจุใหม่ แม้จะมีการคืนมาภายหลังก็ยังไม่เพียงพอ ปัญหาความขาดแคลนอัตราโดยรวมที่มีอยู่แล้ว เมื่อมีเรื่องของการขาดแคลนตามสาขาเข้ามาร่วมด้วย ส่งผลให้ปัญหาวิกฤติครู เข้ามาจากทั้งสองด้าน คือทั้งเรื่องของ ครูที่มีอยู่แล้วขาดความตื่นตัวในการพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพราะมีภาระมากมาย และเรื่องของการได้บุคลากรที่ไม่ตรงกับสาขา”
นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ระบุว่า วิชาชีพครู เป็นวิชาชีพ เปิดที่ใครจะมาเรียนก็ได้ ไม่ได้ควบคุมคุณภาพ แตกต่างกับเมื่อ 50 ปีก่อน ที่คนที่เรียนดี เรียนเก่งอันดับต้นๆ เลือกที่จะเรียนครู เพื่อประกอบอาชีพแม่พิมพ์ของชาติ
“หลักสูตรของคณะครุศาสตร์ เน้นเนื้อหาที่เป็นวิชาครู มากว่าวิชาการ ขณะที่กลไกในการผลิตเนื้อหาเพื่อป้อนความรู้ให้กับ หลักสูตรการเรียนครู เพื่อช่วยในการยกระดับความรู้ให้ตัวเอง เท่าที่เป็นอยู่ พบว่ายังเป็นการแยกส่วนกันทำงาน"นายสมหวังกล่าว
นอกจากนี้ งานประจำหลายส่วน นอกเหนือไปจากภาระการสอน ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นงานเอกสารจำวนมาก ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คอยจำกัดเวลาไม่เหลือให้ครูมีเวลามากพอที่จะใช้เวลาเหล่านั้นเพื่อศักยภาพให้ตัวเอง เมื่อมีการวัดผลเรื่องเนื้อหาจึงปรากฏผลดังที่ได้ทราบไปแล้ว และนั่นเป็นภาพสะท้อนของการจัดการศึกษาครู ที่หากปล่อยไว้ก็จะเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
นายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า เรื่องของการประเมิน ครูในแต่ละครั้ง จำเป็นจะต้องพิจารณาในหลายด้าน ทุกครั้ง ต้องมองว่าเป็นโอกาส ซึ่งจะทำให้เห็นว่า ครูยังขาดในเรื่องใดบ้าง ต้องพัฒนาในด้านไหน เป็นการส่งสัญญาณให้มีการเข้ามาจัดการในการพัฒนาครูในระยะยาว ซึ่งเป็นงานที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องลงมืออย่างจริงจัง


