ศาลฎีกาปรับ1แสนหนุ่มขายขยะซีดีเก่า
ศาลฎีกาสั่งปรับ 1.33 แสนบาท หนุ่มลูกจ้าง กทม. เก็บขยะซีดีเก่าขายไม่มีเงินจ่ายขังคุก 1 ปี
ศาลฎีกาสั่งปรับ 1.33 แสนบาท หนุ่มลูกจ้าง กทม. เก็บขยะซีดีเก่าขายไม่มีเงินจ่ายขังคุก 1 ปี
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ปรับเงิน นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา เป็นจำนวน 1.33 แสนบาท ในความผิดตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 2551 โดยหากไม่ชำระเงิน ให้กักขังแทนค่าปรับไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้ นายสุรัตน์มีอาชีพเป็นลูกจ้างชั่วคราว เก็บขยะประจำเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร โดยเก็บขยะแผ่นซีดีภาพยนตร์ที่พอขายได้ไปขายที่แผงลอยริมฟุตปาท ที่ตลาดนัดใกล้สี่แยกกรุงเทพกรีฑา เขตบางกะปิ ในราคาแผ่นละ 20 บาท และถูกตำรวจ สน.หัวหมาก จับกุมเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2551 ในข้อหาขายแผ่นซีดีภาพยนตร์โดยไม่มีใบอนุญาต
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2553 ให้ปรับเงินจำเลย 1.33 แสนบาท หากไม่ชำระให้กักขังแทนค่าปรับไม่เกิน 1 ปี ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในวันที่ 10 ก.ค. 2555 และศาลฎีกาก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาจบ นายสุรัตน์แจ้งว่าไม่มีเงินชำระค่าปรับ 1.33 แสนบาท เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปกักขังแทนค่าปรับตามคำพิพากษาต่อไป โดยนายสุรัตน์กล่าวก่อนถูกควบคุมตัวไปกักขังว่า เตรียมใจมาแล้วว่าต้องถูกตัดสินโทษ ซึ่งรับสารภาพมาแต่ต้นว่าเป็นคนขายซีดีจริงโดยไม่รู้กฎหมาย ขณะที่เวลานั้นไม่ได้ขายซีดีอย่างเดียว แต่นำเอาสิ่งของอื่นที่ได้มาจากกองขยะมาวางขายด้วย
นายสุรัตน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ยังไม่มีค่าปรับที่จะจ่ายได้ แต่จะลองให้ภรรยาไปหายืมหรือกู้เงินนอกระบบมาชำระค่าปรับ ซึ่งหนทางดูเหมือนจะมืดมนไม่รู้จะไปพึ่งใคร ตอนนี้สงสารแต่ลูก ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำงานเก็บขยะอยู่ที่เดิมและตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่กล้านำอะไรมาขายอีก


