posttoday

สนช.เห็นชอบร่างกม.กองทุนพัฒนาสื่อสร้างสรรค์

13 พฤศจิกายน 2557

สนช.เห็นชอบหลักการ ร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ หนุนผลิตสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน

สนช.เห็นชอบหลักการ ร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ หนุนผลิตสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติ  176 ต่อ 1  เห็นชอบหลักการ ร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยสร้างสรรค์ ที่ครม.เป็นผู้เสนอ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณารายละเอียดต่อไป 

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า สวมควรจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยสร้างสรรรค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุน ในการผลิตและเผยแพร่รายงานสื่อที่มีคุณภาพ  เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพฤติกรรมที่ดีของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมสัมพันธ์อันดีในครอบครัว และ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาสื่อ

ทั้งนี้ สื่อปัจจุบันมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนมากขึ้น สื่อที่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชนมีจำนวนน้อย การผลิตสื่อปลอดภัยและสสร้างสรรค์มีข้อจำกัดหลายประการทั้งไม่เป็นที่นิยมของผู้ผลิตและผู้สนับสนุนการผลิตสื่อทำให้ขาดเงินทุนในการผลิตและเผยแพร่

นายสมชาย แสวงการ สนช. ​อภิปรายว่า  ปัจจุบันมีเยาวชน 22-23 ล้านคน  และใช้ชีวิตอยู่กับสื่อมากถึง 8 ชม.ต่อวัน อีกทั้งคนไทยใช้สื่อมากติดอันดับโลกจากประชากร 65 ล้านคน มีมือถือ 98 ล้านเลขหมาย มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 26 ล้านผู้ใช้  25 ล้านบัญชีเฟซบุ๊ก  33 ล้านบัญชีไลน์ สื่อสารกันแต่สิ่งไร้สาระ ส่งภาพโป๊ เยาวชน 20 ล้านคนเป็นเด็กจะทำอย่างไรสร้างภูมิคุ้มค้น

ทั้งนี้ กฎหมายนี้เป็นที่เฝ้ารอมานานผ่านการผลักดันมานานนับ 10 ปี  แต่ไม่อยากให้ความพยายามสูญเปล่า อย่างที่ผ่านมามีโครงกาสร้างห้องสมุดชุมชน แต่สุดท้ายกลายเป็นโรงเลี้ยงสัตว์ จึงอยากเห็นการบริหารจัดการที่ดี ไม่เปิดช่องให้เกิดการทุจริตไปจ้างใครไม่รู้มาผลิต รวมทั้งต้องดูโครงสร้างดีๆ ไม่ให้การเมืองมาแทรกนำเงินไปใช้ผิดประเภท 

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า  เป็นห่วงในมาตรา 6 ที่ระบุว่าเงินกองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินจาก ( 1) เงินที่ได้รับจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงฯ ​แต่ไม่มีการกำหนดชัดเจนว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ หรือ ระบุชัดเป็นตัวเงิน จึงอาจเป็นปัญหาต่อไป