บวงสรวง 6 องค์เทพปลุกขวัญผู้ค้าราชประสงค์
สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ รวมใจประกอบพิธีบวงสรวงใหญ่ทวยเทพซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณย่านราชประสงค์ หวังกุศลจิตช่วยพลิกฟื้นโอกาสสู่วันฟ้าใหม่
สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ รวมใจประกอบพิธีบวงสรวงใหญ่ทวยเทพซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณย่านราชประสงค์ หวังกุศลจิตช่วยพลิกฟื้นโอกาสสู่วันฟ้าใหม่
โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน
การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จบลงด้วยคาวเลือดและคราบน้ำตา พร้อมทิ้งซากปรักหักพังความเสียหายให้พึงระลึกถึง ถือเป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกับราชประสงค์
ช่วงเช้าของวันที่ 8 มิ.ย. ภายหลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ รวมใจประกอบพิธีบวงสรวงใหญ่ทวยเทพซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณย่านราชประสงค์ หวังกุศลจิตช่วยพลิกฟื้นโอกาสสู่วันฟ้าใหม่
ประชาชนเนืองแน่นกว่า 100 ชีวิต พร้อมดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะ รวมตัวกันบริเวณท้าวมหาพรหม เอราวัณ มี พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เป็นผู้นำบวงสรวง
ถือฤกษ์ 7.39 น. เริ่มต้นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งโต๊ะผลไม้เครื่องสักการะ พระราชครูวามเทพมุนี นำสวดในวาระบูรณปฏิสังขรณ์พื้นที่ ขอพรให้แก่พ่อค้าแม่ค้าทั่วทุกบริเวณเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายขึ้น พร้อมกับขอขมาลาโทษต่อทวยเทพทั่วจักรวาล กรณีเกิดกิจไม่เหมาะควรขึ้นในพื้นที่
ต่อจากนั้นกลุ่มประชาชนราชประสงค์ได้ร่วมกันถวายดอกไม้ธูปเทียนแก่ ท่านท้าวมหาพรหม ณ เอราวัณ และเดินต่อไปสักการะ องค์อัมรินทราธิราช - พระนารายณ์ทรงสุบรรณ - พระแม่ลักษมี ซึ่งอยู่ใกล้เคียง และสิ้นสุดลงที่ พระตรีมูรติ – พระพิฆเนศวร บริเวณห้างเซ็นทรัลเวิลด์เป็นสถานที่สุดท้าย รวมทั้งสิ้น 6 แห่ง
สำหรับความเชื่อต่อองค์เทพทั้ง 6 นั้น ท้าวมหาพรหม ชื่อเสียงร่ำลือในด้านทรงประทานโชคลาภประสาทพร เนื่องจากเปี่ยมด้วยความเมตตาและรับฟังคำขอและคำสวดภาวนาจากทุกคน องค์อัมรินทราธิราช หรือพระอินทร์ เป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นดั่งพระผู้ดูแลทุกข์สุขของชาวโลก พระนารายณ์ ปกปักรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรืองและปกป้องคุ้มครองผู้บูชา เปรียบเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาปัดเป่าความชั่วร้ายและสิ่งไม่ดี
พระแม่ลักษมี เทวีเทพผู้บันดาลโชคลาภความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นพระชายาคู่บารมีของพระนารายณ์ เชื่อว่ามีพลังแฝงให้พระนารายณ์มีพลังเสริมในการคุ้มครองโลก พระตรีมูรติ เจ้าแห่งสรรพสิ่ง หนึ่งในองค์เทพที่มีอำนาจสูงสุด หนุ่มสาวนิยมในฐานะเทพแห่งความรัก พระพิฆเนศวร เทพแห่งศิลปวิทยาการ เทพผู้ขจัดอุปสรรคและบันดาลความสำเร็จ รวมทั้งปกป้องคุ้มครองภยันตราย
นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ชาย ศรีวิกรม์ บอกว่า หลังจากที่ราชประสงค์กลับสู่ปกติ ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เห็นสมควรที่จะจัดพิธีดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์เทพที่คนย่านนี้นับถือ จุดประสงค์หลังคือการร่วมกันสร้างกุศลและความเป็นสิริมงคลให้แก่คนในย่านประสงค์ สร้างพลังในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ศูนย์กลางแห่งธุรกิจแห่งนี้กลับมาเป็นเช่นเดิม
ปรีณาภา เดชกุญชร ผู้จัดการฝ่ายประสานงานราชการ โรงแรมอโนมา กรุงเทพ กล่าวว่า ทำงานในย่านราชประสงค์มากว่า 20 ปี รู้สึกรักและผูกพันกับพื้นที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก โดยในช่วงเกิดเหตุความไม่สงบก็รู้สึกเป็นห่วงที่ทำงาน และเมื่อทราบว่าเกิดความเสียหายต่างๆ ก็สลดใจ แต่วันนี้ได้มาไหว้และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็สบายใจขึ้น หวังให้ราชประสงค์กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและค้าขายที่คึกคักอีกครั้ง ที่สำคัญอยากให้ทวยเทพเปลี่ยนความคิดของผู้ที่คิดร้ายให้กลับมาดี ให้บ้านเมืองได้สงบสุข
ภมร บุญเลิศศักดิ์สกุล เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น สยามแสควร์ บอกว่า เคารพและศรัทธาต่อองค์เทพมาก รู้สึกเหมือนท่านเป็นเทพเจ้าประจำย่านนี้ที่คอยปกปักษ์รักษาคนที่นี่ โดยปกติก็จะมาสักการะอย่างสม่ำเสมอ แต่ช่วงที่มีการชุมนุมในเดือนที่แล้วไม่มีโอกาสได้มาเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
“ได้มาร่วมพิธีวันนี้ก็สบายใจ อะไรที่ร้ายๆ ก็อยากให้ผ่านพ้นไป จากนี้หวังว่าย่านราชประสงค์จะกลับมาเป็นเหมือนก่อนที่จะมีการชุมนุม”เขากล่าว
นอกจากพิธีกรรมบริเวณแยกราชประสงค์แล้ว ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นก็จัดพิธีทางพราหมณ์เพื่อบวงสรวงประจำปีขึ้นเช่นกัน รักษพร พิจิตรนรการ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บอกว่า โดยปกติก็จะทำพิธีพุทธและพราหมณ์ในช่วงวันเกิดของโรงแรม คือเดือนเมษายน แต่สำหรับปีนี้ต้องมาทำย้อนหลังเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุม
“โรงแรมของเราก็ได้รับผลกระทบเหมือนโรงแรมอื่นๆ ต้องปิดประมาณ 1 เดือน วันนี้จึงถือโอกาสทำพิธีบูชาย้อนหลัง เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย โดยในโรงแรมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ 3 แห่ง คือพระพรหมณ์ พระภูมิ พระแม่ไทรทอง นอกจากนี้ยังมีสถานที่สักการะรัชกาลที่ 6 ซึ่งเคยเป็นเจ้าของพื้นที่แห่งนี้” รักษพร ระบุ
พระราชครูวามเทพมุนี อธิบายว่า พื้นที่ราชประสงค์เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นย่านการค้าที่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายแห่ง จึงมีการตั้งสถานที่สักการะทวยเทพอย่างใหญ่โต ทำให้รู้สึกได้ว่ามีความอบอุ่นร่มเย็น แต่อย่างไรก็ตามอาจมีบางคนมองว่าที่แห่งนี้มีอาถรรพ์ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน
“อย่างเช่นบ้านที่อยู่ตรงข้ามธนาคารและมีสัญลักษณ์ตราครุฑอยู่ตรงข้ามนั้น ถ้าเรามองในแง่ดี ก็ตั้งที่บูชา ขอพรท่าน ก็จะได้รับสิ่งดีเป็นมงคล แต่หากเรามองในแง่ไม่ดี ก็คิดเสียว่าสิ่งไม่ดีจะเข้าบ้าน จึงมีการแก้เคล็ดกันด้วยการตั้งกระจกให้สะท้อนออกไป ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับมุมมอง โดยในพื้นที่ราชประสงค์นั้น ส่วนใหญ่จะติดค่านิยมที่มองในแง่ไม่ดีมากกว่า”พระราชครู กล่าว
เขาบอกว่า ในอนาคตจะเกิดเรื่องร้ายบริเวณพื้นที่แห่งนี้หรือไม่นั้น อยู่ที่กุศลจิต ถ้าเราคิดดีทำดี สร้างกำลังให้เดินไปข้างหน้าได้ ก็จะไม่เกิดสิ่งร้ายขึ้นมาอีก


