ดอกไม้เพื่อน้อง ฟาวเวอร์พับเกิร์ล

การมีส่วนช่วยเหลือสังคมมีด้วยกันหลากหลายหนทาง มีเงินให้เงิน มีแรงช่วยแรง  มีความรู้ก็เอาไปช่วยถ่ายทอดให้คนอื่นได้นำความรู้นั้นไปใช้ประโยชน์ สร้างงานสร้างอาชีพให้คนรับได้นำไปใช้ เช่นเดียวกับการรวมตัวของบรรดานักข่าวหนังสือพิมพ์จากหลายฉบับและประชาสัมพันธ์กลุ่มหนึ่งจำนวน 6-7 คน รวมกลุ่มกันทำจิตอาสาหัวใจแห่งการให้ในชื่อกลุ่มฟาวเวอร์พับเกิร์ล  โดยมีจุดเริ่มต้นจาก สวลี  ตันกุลรัตน์ นักข่าวสายการเงิน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ได้ไปเห็นที่งานศพแห่งหนึ่งทำดอกไม้ในรูปแบบที่แตกต่างจากดอกไม้จันทน์ทั่วไป

“เขาทำสวยเป็นช่อๆ เป็นรูปดอกบัว เราก็นึกชมว่าสวยดี มันน่าจะทำเป็นดอกอื่นๆ ที่สวยกว่าและใหญ่กว่านี้ที่ไม่ได้เอาไว้ใช้ในงานศพอย่างเดียวก็ได้นี่นา ก็จุดประกายตั้งแต่ตอนนั้นเราเป็นคนชอบทำงานฝีมืออยู่แล้วด้วย  ก็เลยหัดลองทำ ทำเป็นดอกใหญ่ๆ แล้วใช้สีสดๆ หวานๆ แล้วก็เอาไปลองตกแต่งอย่างอื่น ทำเป็นที่ติดผม เอาให้เพื่อนดูใครๆ ก็ชมว่าสวย ก็เลยเป็นงานอดิเรกของเรา หัดทำดอกไม้กระดาษทำเป็นช่อบูเกต์ แล้วก็เอาไปให้เพื่อนเป็นของขวัญบ้างอะไรบ้างคนก็ชอบ” เธอเล่าถึงบทเริ่มต้น

ต่อมาเมื่อเพื่อนนักข่าวจัดงานแต่งงาน สวลีก็จัดตกแต่งในงานแต่งให้เพื่อน ปรากฏว่าได้รับคำชมมีคนสนใจเยอะมาก “เราทำหลายแบบทั้งจากกระดาษและเอาผ้ายีนส์มาทำก็สวยคนชอบกันมาก ก็เลยคิดว่า ถ้ามีงานอะไรที่เป็นการกุศลเราก็จะมารวมตัวช่วยกัน  ก็เลยจัดตั้งเป็นกลุ่มเป็นขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราว”

ล่าสุด สาวฟาวเวอร์พับได้รวมตัวกันไปสอนทำดอกไม้กระดาษให้กับ โรงเรียนโสตศึกษาทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นโรงเรียนเด็กพิการทางหู บางส่วนก็เป็นเด็กกำพร้า เพื่อให้เด็กมีทางเลือกที่จะได้สร้างอาชีพเมื่อเขาเรียนจบ และยังหางานทำไม่ได้ การไปสอนครั้งนี้ สอนให้คุณครูด้วย เพราะโรงเรียนก็จะทำของมาขายเพื่อหารายได้ช่วยเด็ก เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว

“การไปสอนครั้งนั้น เป็นการสอนให้แบบให้เปล่าเพราะเราอยากช่วย โดยเตรียมอุปกรณ์ไปให้ทั้งหมด เด็กๆ กับคุณครูมีหน้าที่เรียนอย่างเดียว”

พอมีเพื่อนๆ ที่เป็นประชาสัมพันธ์รู้ ก็ฝากขนม ฝากของว่าง บางคนไปเตรียมสดเอาอาหารไปเลี้ยงเด็กๆ ด้วย ก็เป็นเรื่องดีที่ได้ชักชวนกันทำบุญ เด็กได้ทั้งอาหารและความรู้ เราก็ได้ความอิ่มใจปลื้มปีติที่เห็นเด็กๆ เขาสนุกและได้ความรู้ด้วย” เธอเล่าด้วยความสุขใจ

สวลี  กล่าวต่อไปว่าหากมีหน่วยงานใดที่เป็นโรงเรียน หรือสถานสงเคราะห์ที่ต้องการให้ไปสอนแก่น้องๆ เพื่อฝึกอาชีพ ทางกลุ่มก็ยินดีไปสอนให้เพียงแต่แจ้งล่วงหน้ามาเท่านั้น ที่ Facebook.com/Flower พับ Girls

“คือเราก็ไม่ได้มีเวลาหรือเงินเยอะแยะที่จะไปช่วยใครได้มากมาย เราช่วยในแบบที่พอทำได้ ขณะที่ไปสอนเรามีความสุข เราอยากรวมตัวกันเพื่อทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นๆ บ้าง ไม่อย่างนั้นเราก็แค่นัดเพื่อนๆ มากินข้าวสังสรรค์กันธรรมดา แต่นี้นัดกันมาทำสิ่งดีๆ มีความสุข ได้ประโยชน์ อิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับ”

ทางด้าน หมอต้อง-นพ.วรพล  สุขีวัฒนา แพทย์ผิวพรรณเจ้าของ ด๊อกเตอร์โทนี่คลินิค  ที่เป็นส่วนหนึ่งในการไปร่วมงานสอนในครั้งนี้ ว่า การมาสอนครั้งนี้เป็นเรื่องของความสุขใจ “เราไปสอนก็ได้ความรู้ได้ฝึกฝีมือของตัวเอง มีความสุขที่ได้แบ่งปัน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำเรื่องดีๆ โดยเฉพาะการมาสอนมาช่วยให้กับน้องๆ ที่พิการทางหู เขามีความจำเป็นต้องมีความรู้ทางวิชาชีพหลายๆ แบบเพื่อไปดูแลตัวเองเมื่อเรียนจบ การมาสอนครั้งนี้คือการให้โอกาสให้ความรู้ที่เขาจะติดตัวไปได้อีกนาน และไม่แน่ที่จะไปสร้างรายได้เสริมให้เขาได้ในอนาคต”