รฟท.วอนผู้ขับขี่หยุดที่ทางตัดขณะรถไฟผ่าน
ทีมประชาสัมพันธ์การรถไฟฯ วอนผู้ขับขี่หยุดที่ทางตัดขณะรถไฟวิ่งผ่าน ชี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากประมาท
ทีมประชาสัมพันธ์การรถไฟฯ วอนผู้ขับขี่หยุดที่ทางตัดขณะรถไฟวิ่งผ่าน ชี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากประมาท
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุหัวข้อว่า "วินัยจราจร มีไว้เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน" โดยมีเนื้อหาดังนี้
จากอุบัติเหตุบริเวณทางตัดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีเสียงสะท้อนว่าทำไมทางตัดไม่มีคานกั้น นั้น ขอเรียนว่าในปัจจุบันทางตัดเสมอระดับมีอยู่ 2,457 แห่ง แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนีั้
ทางตัดที่มีคานกั้นถนน (รวมคานกั้นอัตโนมัติ) 410 แห่ง
ทางตัดที่มีไฟเตือน ไม่มีคานกั้นถนน 259 แห่ง
ทางตัดที่มีป้ายจราจรเตือน 984 แห่ง
ทางลักผ่าน (ผิดกฎหมาย) 538 แห่ง
ทางตัดผ่านของเอกชน 5 แห่ง
ทางตัดที่มีสะพานข้าม (Overpass) 144 แห่ง
ทางตัดที่มีอุโมงค์ลอด (Underpass) 117 แห่ง
ในการพิจารณาติดตั้งคานกั้น ไฟเตือน ป้ายจราจรและอุปกรณ์ป้องกันบริเวณทางตัดนั้น มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาประกอบ เช่น ความหนาแน่นของการเดินรถ การตั้งถิ่นฐานของชุมชน ความถี่ในการเดินรถผ่านจุดดังกล่าว และการจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
ร้อยละ 100 ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นความประมาททั้งสิ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
ที่กำหนดไว้ดังนี้.................
มาตรา 62
ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ถ้าปรากฏว่า
(1) มีเครื่องหมายหรือสัญญาณระวังรถไฟแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน
(2) มีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน
(3) มีเสียงสัญญาณของรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้อาจเกิดอันตรายในเมื่อจะขับรถผ่านไปผู้ขับขี่
ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่อง
หมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้
มาตรา 63
ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้


