รถไฟชนรถพ่วงที่ขอนแก่นตาย4เจ็บ14

ด่วน!เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถพ่วงใกล้สถานีบ้านสำราญ จ.ขอนแก่น  ตาย4 บาดเจ็บกว่า20 คน

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.57 เมื่อเวลา10.00น. เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟท้องถิ่น 415 (ดีเซลราง) วิ่งระหว่างนครราชสีมา - หนองคาย ชนกับรถบรรทุก 10 ล้อพ่วง บริเวณจุดตัดทางหลักผ่านเสาโทรเลข 459/9-10 ระหว่างสถานีขอนแก่น - สำราญ ต.ศิลา อ.เมือง ขอนแก่น ส่งผลให้รถไฟตกราง 3 ตู้ ปิดทาง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต4 ราย (พนักงานขับรถไฟ พนักงานช่างเครื่องรถไฟ และพระภิกษุผู้โดยสาร) และมีผู้บาดเจ็บ14คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างลำเลียงส่งโรงพยาบาล

ทั้งนี้ จากอุบัติเหตุนี้ ทำให้ต้องปิดเส้นทางรถไฟไปสิ้นสุด จ.หนองคาย

นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (30 ตุลาคม 2557) ได้รับแจ้งเหตุรถสิบล้อวิ่งผ่านทางผ่านเสมอระดับในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้ขบวนรถท้องถิ่นที่ 415 นครราชสีมา–หนองคาย ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ ชนกับรถสิบล้อคันดังกล่าว ระหว่างสถานีขอนแก่น–สำราญ สทล.ที่ 459/9-10  ทำให้ขบวนรถตกรางจำนวน 3 คัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย เป็นพนักงานขับรถไฟ และช่างเครื่อง รวมทั้งผู้โดยสาร 2 คน (เป็นพระภิกษุ 1 รูป) ผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส 20 ราย   กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์  14 ราย และโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น 6 ราย รวมทั้งคนขับรถสิบล้อ บาดเจ็บเล็กปฐมพยาบาลที่เกิดเหตุ 60 ราย บริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางผ่านมีเครื่องหมายจราจรเตือน  ไม่มีเครื่องกั้น   
  
สำหรับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุมีดังนี้
1.นายเพชร  แพนดี พนักงานขับรถ
2.นายดำริ  โกษาลาภ ช่างเครื่อง
3.นายณรงค์ เดชมา ผู้โดยสาร
4.พระภิกษุ (ยังไม่ทราบชื่อ)
 
ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ใช้พาหนะสัญจรผ่านทางรถไฟ ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 63 ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟ หรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้

นายสนู  แต่งงาม หัวหน้าพนักงานประจำรถขบวนดังกล่าว กล่าวว่า ขบวนรถไฟนี้จะเดินทางไปส่งผู้โดยสารที่จ.หนองคาย เมื่อวิ่งออกจากสถานีรถไฟขอนแก่น มาได้เพียง 20 นาที เข้าสู่สถานีรถไฟสำราญ รถบรรทุก 10 ล้อบรรทุกดินคันดังกล่าวได้ขับตัดหน้ากะทันหันทั้งที่พนักงานขับรถได้ส่งสัญญาณหวูดเสียงดังสนั่นเพื่อแจ้งเตือนแล้วแต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด และเร่งเครื่องเพื่อฝ่าขบวนส่งผลให้โบกี้ที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนของคนขับและมีผู้โดยสารโดยสารมาด้วย ชนประสานงานอย่างแรงก่อนจะลากไถลไปกว่า 100 เมตร ก่อนที่โบกี้ที่ 1 จะเสียหลักหัก 2 ท่อนและตกราง

พ.ต.อ.สุภากร  คำสิงห์นอก รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า เส้นทางที่ประสบอุบัติเหตุครั้งนี้ ถือเป็นเส้นทางสายหลักที่จะมุ่งหน้าไปในเส้นทางภาคอีสานตอนบน และจุดตัดกลับสู่เส้นทางอีสานตอนล่างและกรุงเทพฯ และใกล้กับจุดพักขบวนรถขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และคลังน้ำมัน ซึ่งจะมีขบวนรถไฟโดยสารและรถไฟขนส่งสินค้า ใช้เส้นทางดังกล่าวแต่ละชั่วโมงเป็นจำนวนมาก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลให้การเดินทางด้วยขบวนรถไฟในเส้นทางสายอีสานตอนบนไม่สามารถเดินทางได้จนกว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยจะสามารถกู้ซากโบกี้ที่ได้รับความเสียหายและซ่อมระบบรางและระบบเชื่อมต่อสัญญาณต่างๆแล้วเสร็จ ทำให้ขบวนรถต่างๆเดินทางล่าช้าแล้วกว่า 3 ชม. 

ภาพจากทวิตเตอร์ @ศูนย์ข่าวทานตะวันขอนแก่น และหน่วยกู้ภัย