posttoday

พระพุทธศาสนา กับการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์

26 ตุลาคม 2557

ด้วยความตระหนักในเรื่องการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ เราจึงควรเข้าใจว่าเรามิได้อยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียว

ด้วยความตระหนักในเรื่องการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ เราจึงควรเข้าใจว่าเรามิได้อยู่บนโลกนี้เพียงคนเดียว โลกเป็นที่อยู่ของทุกสรรพชีวิต และเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เพื่อสภาวะที่ดีขึ้น เพื่อสันติ และเพื่อความเจริญของโลกใบนี้ และนี่คือพระพุทธศาสนาที่แท้จริง

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย นอกจากนี้ พระอนิลมาน ธมฺมสากิโย เป็นอาจารย์พิเศษประจำอยู่ที่วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยซานตา คลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร นอกจากดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังเป็นกรรมการมูลนิธิแผ่นดินธรรม ในพระสังฆราชูปถัมภ์ด้วย

วีไอพี.ที่ประชุม พ.ส.ล.

ท่านรับนิมนต์เป็นแขกวีไอพี และแสดงปาฐกถาในการประชุมใหญ่ องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ที่นครเบาจี๋ มณฑลชานซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จัดขึ้นวันที่ 1419 ต.ค. 2557

ข้อความปาฐกถามาจากบทบรรณาธิการที่ท่านอธิบาย Theme ของการประชุม พ.ส.ล. ที่ตั้งว่า Buddhism : and public benefit charity ซึ่งตีพิมพ์ใน WFB Review ฉบับเดือน ก.ย.ธ.ค. 2557 เป็นภาษาอังกฤษ และอัญจิรา อัศวนนท์ ถอดความเป็นภาษาไทย

พระพุทธศาสนา กับการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์

 

การบริจาคเริ่มที่บ้าน

การบริจาคนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อสิ่งใด ดังที่มีคำกล่าวว่า “การบริจาคเริ่มที่บ้าน” การบริจาคนั้นเชื่อกันว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของความสุขที่เราได้รับเมื่อเราช่วยเหลือผู้ที่ยากไร้

การบริจาคนั้นทำให้เราเกิดความพึงพอใจขึ้นภายในจิตใจ การบริจาคไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การให้สิ่งของ แต่โดยรากศัพท์แล้ว การบริจาคยังหมายถึงความเมตตา ความรัก หรือผู้เป็นที่รัก

การบริจาคนั้นมีลักษณะที่เป็นสากล ก็คือ การดูแลใส่ใจผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานของความกรุณาที่มุ่งให้เกิดสาธารณประโยชน์

คุณธรรมของพุทธ

การบริจาคเป็นคุณธรรมในพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งบุญ และยังเป็นเครื่องมือในการเอาชนะความเห็นแก่ตัวและการยึดติด

การบริจาคเป็นหลักการสำคัญของพระพุทธศาสนาทุกนิกาย

การให้บริจาคในภาษาอังกฤษ หมายถึง ความเมตตากรุณาต่อคนยากจน ซึ่งเป็นความหมายที่แคบกว่าในทางพระพุทธศาสนาที่หมายความรวมถึงทุกสิ่ง

การบริจาคเป็นคุณธรรมขั้นสูงที่พระโพธิสัตว์ทรงบรรลุ เป็นแนวทางหลักในการส่งเสริมสนับสนุนกิจของสงฆ์และรากฐานของพระพุทธศาสนา และเป็นวิถีทางในการสร้างบุญทางศาสนา

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การบริจาคเป็นทั้งวิธีการและเป้าหมายในขณะเดียวกัน

ให้โดยไม่หวังตอบแทน

พระพุทธศาสนา กับการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์

 

สิ่งสำคัญคือ การบริจาคที่จริงแท้ในพระพุทธศาสนานั้น ควรหมายถึงการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ด้วยจิตวิญญาณที่จริงแท้เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม การให้โดยมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงนั้นไม่ถือว่าเป็นบริจาคอันประเสริฐ

การบริจาคเป็นหัวใจในการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาตั้งแต่เริ่มแรก ที่สำคัญการบริจาคเป็นยาถอนพิษของสิ่งที่ทำให้ใจมัวหมอง ได้แก่ ความโลภ ความเกลียด ความหลง เป็นต้น

ผู้ใดบริจาควัตถุทาน ผู้นั้นย่อมลดละซึ่งความโลภ

ผู้ใดให้อภัยทาน ผู้นั้นย่อมลดละซึ่งความเกลียด

และผู้ที่ให้ปัญญาทาน ย่อมขจัดซึ่งความหลงออกจากจิตใจ

ที่พักก่อนนิพพาน

ชาวพุทธในยุคต้นๆ ให้คุณค่ากับการบริจาค ว่าเป็นหนทางไปสู่สวรรค์ แต่ต่อมาก็มีการให้ความหมายที่ลึกซึ้งขึ้น ว่าสวรรค์นั้นเป็นเพียงที่พักระหว่างทางที่จะไปสู่นิพพาน หรือสภาวะที่ปราศจากซึ่งความโลภ ความเกลียด และความหลง

พระไตรปิฎกภาษาบาลีกล่าวถึงองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ประการ ของบุญ (บุญญกิริยาวัตถุ) ในเรื่องการกระทำอันดีงาม

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นถึงองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ประการ นั่นคือ การบริจาค (ทาน) ทางปฏิบัติ (ศีล) และการฝึกตนและพัฒนาตนเอง (ภาวนา) เช่นเดียวกับเรื่องของการสวดมนต์โดยพร้อมเพรียงกัน พระสารีบุตรก็ได้กล่าวถึงองค์ประกอบเดิมทั้ง 3 ประการ ได้แก่ การบริจาค (ทาน) คุณธรรม (ศีล) และการพัฒนาทางจิตใจ (ภาวนา)

ในอิติวุตตกะแห่งขุททกนิกาย กล่าวถึง 3 องค์ประกอบพื้นฐาน อันได้แก่ การให้ การควบคุมตนเอง และการละเว้น

ในพระสูตรเดียวกัน ได้นิยามถึง 3 องค์ประกอบใหม่ ได้แก่ การบริจาค (ทาน) การประพฤติชอบ (สัมมาจริยา) และเมตตาจิต (ความตั้งใจชอบ)

เรื่องของจิตวิญญาณที่มุ่งสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวมนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งหลังจากทรงตรัสรู้เพียงไม่นาน

พระพุทธศาสนา กับการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์

 

ภารกิจแรกคือเผยแผ่

พระพุทธองค์ทรงจำพรรษาในฤดูฝนเป็นครั้งแรกที่สวนกวางสารนาถ โดยพระองค์ได้สอนธรรมจนกระทั่งมีจำนวนพุทธสาวกเพิ่มขึ้นถึง 60 รูป

พระสาวกเหล่านี้ถูกส่งไปทั่วทุกสารทิศเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา ถือเป็นภารกิจแรกในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

อย่างไรก็ดี ภารกิจนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยแท้ มิใช่เป็นเพียงการส่งสารจากพระเจ้าหรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เพื่อให้เข้าใจสัจธรรม และเพื่อขจัดความทุกข์ โดยที่พระพุทธองค์เองก็ทรงออกเผยแผ่ศาสนาในเส้นทางหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังปรากฏในพระวินัยปิฎก มหาวรรค ความว่า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย ขอพวกเธอจงจาริกไป เพื่อประโยชน์แก่สาธุชน เพื่อความสุขแก่สาธุชน ด้วยความเมตตากรุณาต่อโลก

เพื่อประโยชน์และความสุขแก่พระเจ้าและมนุษย์

เธอจงอย่าไปในเส้นทางเดียวกัน 2 รูป

ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงสอนสัจธรรม ซึ่งงามในตอนต้น งามในตอนกลาง และงามในตอนสุดท้าย ทั้งในเนื้อหาและจิตวิญญาณ” (MvIV,32)

พระพุทธวจนะที่ยกมาแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงจิตวิญญาณที่คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนรวมของพระพุทธองค์

การทำเพื่อประโยชน์และความสุขของส่วนรวมจึงกลายเป็นภารกิจสำคัญของพุทธศาสนิกชนทุกคน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นภารกิจที่บริสุทธิ์ผ่องแผ้วด้วยถ้อยดำรัสที่ว่า “ด้วยความเมตตากรุณาต่อโลก” การบริจาคเพื่อประโยชน์ส่วนรวมนั้นควรมี “ความเมตตากรุณาต่อโลก” เป็นวัตถุประสงค์หนึ่ง อย่างเช่น “เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม” หรือ “เพื่อความสุขของส่วนรวม” นั้น เป็นเป้าหมายในการกระทำ แต่เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายนั้น ภารกิจที่กระทำควรมีรากฐานมาจาก “ความเมตตากรุณาต่อโลก” ด้วย

ความคิดในทางพระพุทธศาสนาที่มีต่อโลกนั้น ต่างไปจากความคิดความเข้าใจโดยทั่วไป ในภาษาบาลี คำว่า “โลกา” หรือ โลก มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแนวคิดในพระพุทธศาสนาเรื่องความไม่เที่ยง

เมตตาคือประโยชน์ส่วนรวม

ดังนั้น คำที่ว่า “ด้วยความเมตตากรุณาต่อโลก” จึงหมายถึงการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจในความต้องการของเขา เช่นนี้แล้วก็จะเป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้ให้และผู้รับ

เราจะเห็นว่า โดยทั่วไปผู้ให้จะมีสถานะสูงกว่าผู้รับ

แต่ในทางพระพุทธศาสนานั้น เราไม่ควรให้ด้วยความรู้สึกว่ามีอำนาจเหนือกว่า แต่ควรให้ด้วยความเมตตากรุณา กล่าวคือเข้าใจในความทุกข์ที่ผู้รับกำลังเผชิญอยู่

ดังนั้น หัวใจการปฏิบัติในพระพุทธศาสนา ก็คือการกระทำหรือคิดด้วยความเมตตากรุณาต่อโลก ซึ่งนั่นก็คือเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม

พุทธต้องบริจาค

สุดท้ายท่านสรุปว่า การประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 27 ของ พ.ส.ล. ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กำหนดหัวข้อการประชุมว่า “พระพุทธศาสนาและการบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์” (Buddhism and Public Benefit and Charity) เป็นการส่งสารต่อโลกยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมแห่งความเห็นแก่ตัว ยึดตนเองเป็นใหญ่ เครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่มากมาย ทำให้เรามีแนวโน้มที่จะอยู่ในโลกเสมือน มากกว่าโลกในความเป็นจริง กับความสัมพันธ์ที่มีอยู่จริง เรากลายเป็นหุ่นยนต์มากกว่ามนุษย์

ดังนั้น ด้วยความตระหนักในเรื่องการบริจาคเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เราจึงควรเข้าใจว่า เรามิได้อยู่บนโลกใบนี้เพียงคนเดียว โลกเป็นที่อยู่ของทุกสรรพชีวิต และเราต้องอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เพื่อสภาวะที่ดีขึ้น เพื่อสันติ และเพื่อความเจริญของโลกใบนี้ และนี่คือพระพุทธศาสนาที่แท้จริง

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025