มทภ.2 ยันไม่เคยส่งทหารไปฝึกกัมพูชา

มทภ.2 โต้ไม่เคยส่งทหารไปฝึกกัมพูชา ยืนยันกัมพูชารับฟังข่าวสารจนเกิดความเข้าใจผิด 

พล.ท.วีร์วลิต  จรสัมฤทธิ์  แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาออกมาโต้ว่า แม่ทัพภาคที่2 เป็นผู้ฝึกกองกำลังอยู่ที่ประเทศกัมพูชานั้น ตนเชื่อว่าเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างการรับข่าวสารของประเทศกัมพูชา  เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ และได้มีผู้สื่อข่าวที่จังหวัดขอนแก่นมาขอสัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งจากประเทศได้ส่งกำลังไปฝึกที่ประเทศกัมพูชาและมีการส่งกองกำลังดังกล่าวที่ฝึกเสร็จแล้วเดินทางกลับมาป่วนที่ประเทศไทยนั้น ตนได้ตอบผู้สื่อข่าวไปว่า ตนพึ่งจะได้ยินจากผู้สื่อข่าว หากผู้สื่อข่าวมีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมก็ขอให้ส่งรายละเอียดมาให้กับตนด้วย
 
ทั้งนี้เพื่อทางกองทัพภาคที่ 2 จะได้มีการติดตามรายละเอียดต่อไป ตนก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปเท่านั้น  และผู้สื่อข่าวก็ได้มีการถามต่อว่ากรณีที่จะมีบุคคลเข้าออกมาในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้นทางกองทัพภาคที่ 2 มีมาตรการตรวจสอบอย่างไร ตนจึงได้ตอบไปว่าตามแนวชายแดนมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่แล้วและการเข้าออกก็ไม่ได้ง่ายนัก ตนก็ได้ตอบคำถามเพียง 2 ข้อเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันได้ว่าตนไม่ได้พูดว่ามีการส่งกำลังไปฝึกที่กัมพูชาแต่อย่างใด 
 
อย่างไรก็ตามทางกัมพูชายืนยันว่าได้รับข่าวสารจากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีของประเทศไทย ในเวลา 09.00 น. ว่าแม่ทัพภาคที่2 เป็นผู้ส่งกำลังไปฝึกที่กัมพูชานั้นไม่เป็นความจริง ฉะนั้นตนจึงขอให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงอย่าได้นำเสียงไปตัดต่อจนผู้รับฟังข่าวสารข้อมูลเกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายตามมา
 
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเร่งทำความเข้าใจกับฝ่ายกัมพูชา แต่หากยังไม่เข้าใจกองทัพภาคที่ 2 ก็จะต้องมีการเชิญผู้บัญชาการของกองทัพภูมิภาคของกัมพูชามาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกันอีกรอบและที่สำคัญที่สุด ประมาณเดือนกรกฎาคม 2553 จะมีการประชุม อาบีซี ระหว่างไทย-กัมพูชาที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อจัดทำข้อสรุปและขจัดความขัดข้องที่มีมาโดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาโดยอาศัยกรอบของ อาบีซี เป็นหลัก  พลโทวีร์วลิตฯกล่าว