ผู้ต้องขังต่างชาติในเรือนจำไทย

เว็บไซต์ข่าวสแกนด์เอเชียดอทคอม ซึ่งให้บริการข้อมูลข่าวสารสำหรับชาวสแกนดิเนเวียนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เสนอข่าวสารด้านความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังที่เป็นพลเมืองของกลุ่มประเทศนอร์ดิก อันหมายถึงภูมิภาคยุโรปเหนือ ที่ต้องโทษถึงขั้นจำคุกในเรือนจำของไทย

จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ พบว่า มีประชาชนในภูมิภาคนอร์ดิกที่ถูกลงโทษจำคุกในเรือนจำไทยน้อยมาก เมื่อเทียบกับนักโทษชาวต่างชาติที่อยู่ในเรือนจำทั้งหมดราว 1.6 หมื่นคน อย่างไรก็ดี ตามสถิติล่าสุดของกรมราชทัณฑ์ รายงานตัวเลขว่า มีผู้ต้องขังในเรือนจำ 143 แห่งทั่วประเทศทั้งหมดประมาณ 3 แสนคน จนเกิดเป็นปัญหาเรื่องความแออัด

นอกจากนี้ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มนุช สร้อยเพชร จากส่วนราชทัณฑ์ต่างประเทศ สำนักทัณฑวิทยา กรมราชทัณฑ์ ระบุว่า พบผู้ต้องโทษชาวนอร์ดิกในเรือนจำไทยไม่มากนัก โดยมี 9 คน เป็นชาวสวีเดน 4 คน มาจากเดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ 3 คน อีก 3 คน เป็นชาวนอร์เวย์ และมีชาวฟินแลนด์ 2 คน ซึ่งเป็นการคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดีทางกฎหมาย

ส่วนใหญ่ผู้ต้องโทษจากยุโรปเหนือนี้ มักจะถูกกล่าวหาหรือถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา อันหมายรวมถึงคดีการครอบครองยาเสพติดอย่างผิดกฎหมายและฐานความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงเรื่องบัตรเครดิต ขณะที่คดีอาชญากรรมรุนแรง เช่น ฆาตกรรม และคดีทำร้ายร่างกายทางเพศ พบน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ข่าวสแกนด์เอเชียดอทคอม ระบุว่า นักโทษต่างชาติมีความเป็นอยู่และได้รับการปฏิบัติไม่ต่างจากนักโทษชาวไทย แต่ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมนักโทษจากต่างชาติเหล่านี้อาจได้รับอนุญาตให้ครอบครัวเข้าเยี่ยมได้บ่อยครั้งขึ้น เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวของผู้ต้องโทษต้องเดินทางไกลและเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อการนี้จำนวนมาก

นอกจากนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ยังอนุญาตให้นักโทษทั้งหลายเข้าถึงบริการห้องสมุด ข่าวสารทางโทรทัศน์ที่ได้รับการบันทึกเทปไว้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องมีการตรวจสอบผังรายการก่อนทุกครั้ง แถมผู้ต้องขังยังมีสิทธิยื่นจดหมายปิดผนึกร้องเรียนเรื่องต่างๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังชาวยุโรปก็เช่นเดียวกับผู้ต้องขังสัญชาติอื่นๆ ที่มุ่งหวังว่าจะถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านเกิดของตนเองหลังจากรับโทษอย่างน้อยเป็นเวลา 1 ใน 3 ของระยะเวลาที่ถูกตัดสินให้จำคุกทั้งหมดในไทย หรือจำคุกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี ขึ้นอยู่กับว่าเงื่อนไขใดจะใช้เวลาสั้นกว่ากัน

ทางการไทยได้ลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคีในการโอนย้ายนักโทษกับทางสวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ และฟินแลนด์ พร้อมกับอีก 31 ประเทศ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอาจได้รับการโอนย้ายกลับไปยังประเทศบ้านเกิดตามคำร้องขอ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการยุติธรรมของไทยจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ ทั้งนี้ผู้ต้องขังชาวต่างชาติดังกล่าวต้องจ่ายค่าปรับหรือเงินชดเชยต่างๆ สำหรับความเสียหายจากคดีก่อน คณะกรรมการจึงจะออกคำสั่งอนุมัติการโอนย้าย