จับตาคดีมาเฟียภูเก็ตทลายฐานอำนาจ"เปี่ยน กี่สิ้น"

โดย....ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ข้อหาที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามผู้มีอิทธิพลตำรวจภูธรภาค 8 แจ้งดำเนินคดีแก่ เปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ฐานเป็นอั้งยี่ โดยเป็นหัวหน้าผู้จัดการ หรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในสมาชิกคณะบุคคลนั้น จากการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายมาเฟียแท็กซี่ภูเก็ต อาจกล่าวได้ว่าเป็นบททดสอบที่หนักที่สุดของผู้ครองอำนาจในสนามการเมืองท้องถิ่น ต.ป่าตอง อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 40 ปี เพราะนอกจากคดีอาญาแล้ว บริษัทในเครือข่ายของเปี่ยนอีกร่วม 10 บริษัท ตลอดจนเครือข่ายร่วมขบวนการที่ถูกออกหมายจับอีก 82 หมายจับ  ก็จะถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเข้าตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด ไม่ต่างอะไรกับการแช่แข็งเครือข่ายในตระกูล ‘กี่สิ้น’

แม้จะมีชาวบ้านกว่า 100  คน รอคอยให้กำลังใจนายกฯเปี่ยน ที่จะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ที่สภ.เมืองภูเก็ต ช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย. แสดงถึงบารมีที่นายกฯเปี่ยนยังมีอยู่  แต่การทำงานของตำรวจชุดนี้ก็นับว่ามีข้อมูลหลักฐานหนักแน่น กระทั่งสามารถทำให้ศาลยอมอนุมติหมายจับได้

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิริน ผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล หัวหน้าทีมทำคดีนี้ ก็หาใช่ใครอื่น แต่เป็นนายตำรวจที่เคยดำรงตำแหน่งในสภ.กะทู้มาอย่างยาวนานเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่า เป็นนายตำรวจที่รู้จักเครือข่ายตระกูลกี่สิ้นเป็นอย่างดี

“เมื่อ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้น บ้านพักและบริษัทเครือข่ายของนายเปี่ยน รวม 17 จุด มีการยึดเอกสารมาจำนวนมาก บางส่วนยึดไว้ โดย ผู้เป็นตัวแทนเจ้าของบ้านยินยอมและเซ็นรับมอบไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ซีลเอกสารไว้ และเปิดให้ผู้ต้องหาดู เอกสารส่วนหนึ่ง เป็นรายการเก็บรีดไถเอาเงินจากผู้ประกอบการในป่าตอง ทั้งสิ้น รวม 31 รายการ เป็นการแสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้ กระทำตัวเป็นมาเฟียจริง มีการรีดไถเงินทุกหย่อมหญ้า  ประพฤติตนมาเป็นเวลายาวนาน ในช่วงมีตำแหน่งในเทศบาลเมืองป่าตอง วางเครือข่าย   โยงใย ทั้งหมด  เงินที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ได้ตรวจค้นตรวจยึดไว้  เป็นจังหวะที่สายเครือข่ายไปเก็บเงินจากผู้ประกอบการและนำมาส่ง  สอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่มีใครตอบได้ว่า เงินส่วนนี้มาจากไหน เจ้าหน้าที่ ปปง.สรรพากร ตำรวจ จึงอายัดเงินจำนวนนี้ไว้ เพื่อตรวจสอบ”

พล.ต.ต.ปวีณ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ มั่นใจในหลักฐานที่ตรวจพบอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนที่มีข้อมูลการกระทำผิดของกลุ่มผู้ต้องหาเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ

“คณะทำงานตำรวจภูธรภาค 8 เข้ามาทำงาน หลายเดือนแล้ว ได้รับทราบว่าชาวภูเก็ตได้รับความเดือดร้อนมาก และไม่เชื่อมั่นตำรวจพื้นที่  ครั้งนี้ยืนยันว่า ทีมของเราตั้งใจ มุ่งมั่นจริงๆ  ความเกรงกลัวต่างๆ  ขอให้เลิกวิตก ขอให้มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ต้องกล้า ให้ข้อมูล ยืนยันว่า ทำอย่างตรงไปตรงมา ด้วยกระบวนการยุติธรรม บริสุทธิ์ ไม่กลั่นแกล้ง ไม่เรียกรับผลประโยชน์ ใด ๆ” พล.ต.ต.ปวีณกล่าว

หลังการเข้ามอบตัวของนายกฯเปี่ยน พร้อมบุตรชาย 2 คน คือ ปรีชาวุฒิหรือปราบต์ และปัทวี หรือปัด รวมทั้งเครือข่ายที่ถูกออกหมายจับอีก 5 ค น ประกอบด้วย  ชานนท์ ฟองละแอ เศรษฐศักดิ์ บัวซ้อน ชุมพล แซ่ตัน ยอดลักษณ์ เกื้อหนุน และณัฐภูมิ ทองขาว ตำรวจยังไม่ให้ประกันตัว

พล.ต.ต.ปวีณอ้างว่า กลุ่มผู้ต้องหานัดที่จะเข้ามอบตัวตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. แต่ผ่านมาแล้วหลายวัน พนักงานสอบสวนที่เตรียมไว้สอบปากคำแยกย้ายกันไป ไม่สามารถสอบปากคำให้แล้วเสร็จได้ จึงต้องควบคุมตัวไว้จนกว่าจะสวนสวนแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตาม อิทธิพลบารมีของนากฯเปี่ยน ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น นายหัว หรือเจ้าพ่อป่าตอง ตัวจริง ก็ถูกท้าทายมาเป็นระยะ

เปี่ยน กี่สิ้น ที่ชาวป่าตองเรียกว่าโกเปี่ยน หรือกำนันเปี่ยนนั้น ครองอำนาจการเมืองท้องถิ่น ต.ป่าตอง อ.กระทู้มานานกว่า 40 ปี เริ่มจากเป็นกำนันต.ป่าตอง ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จัก กระทั่งต.ป่าตองยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลป่าตอง เมื่อปี 2537 และกลายเป็นเทศบาลเมืองป่าตองในปี 2545 เปี่ยนก็ครองตำแหน่งนายกเทศมนตรี บริหารงานพื้นที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่มีเงินสะพัดปีละหลายหมื่นล้านบาทมาอย่างต่อเนื่องไร้คู่แข่ง

ด้านสายสัมพันธ์กับกลุ่มการเมืองต่างๆ นั้น แม้จะใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ เคยได้รับเอกสารสิทธิ์ ส.ปก.4-01 ที่อื้อฉาว สมัยที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ ดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ ช่วงปี 2538 แต่ในระยะหลัง ที่พรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย เรืองอำนาจ สายสัมพันธ์ของเปี่ยนกับ ขั้วการเมืองตรงข้ามประชาธิปัตย์ก็ไม่ธรรมดา

ในช่วงเดือนส.ค.2556 อำนาจของนายกเปี่ยนก็ถูกท้าทาย เมื่อ  ปรีชาวุฒิ หรือปราบต์ บุตรชายคนโต ก็ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบกรณีเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ คิวรถแท็กซี่ ในหลายพื้นที่ของจ.ภูเก็ต

ล่าสุด การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองป่าตองช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก็พ่ายแพ้ให้กับ เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ที่ได้รับคะแนนเสียง 4,391 คะแนน ขณะที่เปี่ยนได้ 3,329 คะแนน สิ้นสุดการครองตำแหน่งนายกเล็กตลอดกาลของเมืองป่าตอง

ดังนั้น การดำเนินคดีเครือข่ายนายกฯเปี่ยนในข้อหาผู้มีอิทธิพล ซึ่งมีการนำมาตรการตามกฎหมายฟอกเงินมาใช้ จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตา เพราะอาจหมายถึง การสิ้นสุดฐานอำนาจของตระกูลกี่สิ้นในทุกๆด้านกันเลยทีเดียว