“มือถือระเบิด” ... ภัยร้ายใกล้ตัวนักแชท
นักแชทพึงระวัง เมื่อ"โทรศัพท์มือถือระเบิด"ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
โดย อินทรชัย พาณิชกุล
ในวันที่สมาร์ทโฟนเปรียบได้ดั่งอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย สังคมไทยกลายเป็นสังคมก้มหน้า ทุกคนต่างแชท แชะ แชร์กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ต่างอะไรจากกิจวัตรประจำวัน
ปัญหาเรื่องโทรศัพท์มือถือระเบิด จึงกลายเป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้เข้าสักวัน ดังที่ปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา
13 มี.ค.2556 ขณะที่ สุวิชา เอื้อสมศักดิ์สกุล นักธุรกิจหนุ่ม กำลังคุยโทรศัพท์รุ่นไอโฟน 5 ที่เพิ่งซื้อมาได้เพียง 2 เดือน จู่ๆก็รู้สึกร้อนผิดปกติ และมีควันลอยออกมา จึงรีบเขวี้ยงลงพื้นด้วยความตกใจ ไม่นานนักโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวก็เกิดระเบิดเสียงดังคล้ายประทัดถึง 4 ครั้ง
21 มิ.ย.2556 วัชรี แซ่โค้ว วัย 64 กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่บ้าน จู่ๆโทรศัพท์มือถือรุ่นไอโมบายที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็เกิดเสียงเปรี๊ยะคล้ายเสียงประทัด พร้อมควันพวยพุ่ง ทำให้เกิดความปวดแสบปวดร้อน ผลปรากฎว่าผิวหนังชั้นกำพร้าไหม้ ต้องคอยดูแลล้างแผลทุกวันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
27 มิ.ย. 2557 เชอร์ริล แอนน์ อัลเดเกอร์ หญิงสาวชาวฟิลิปปินส์ วัย 28 ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย หน้าอกและใบหูมีรอยไหม้ จากการตรวจสอบพบว่าปลั๊กชาร์จยูเอสบีไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและรั่วไหลตามสายไฟไปยังตัวแล็ปท็อป และสายหูฟังที่หญิงสาวรายนี้สวมอยู่
12 ก.ค. 2556 โทรศัพท์ซัมซุง เอส3 ของ แฟนนี ชแลตเตอร์ วัย 18 ปี ชาวสวิสเซอร์แลนด์ เกิดระเบิดไฟลุกไหม้ขณะอยู่ในกระเป๋ากางเกง ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
11 ก.ย. 2556 ที่จ.ระยอง เกิดเหตุโทรศัพท์มือถือระเบิดใส่หน้า นายชนะ (ไม่ทราบนามสกุล) วัย 25 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ตาบอดทั้งสองข้าง ผลจากการตรวจสอบพบว่าเป็นโทรศัพท์ลอกเลียนแบบไม่ได้คุณภาพ
25 ส.ค.2557 ดิออน แบ็กซ์เตอร์ หญิงสาวชาวผู้ดีวัย 24 ร้องสื่อว่าถูกถูกโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 ไหม้จนเป็นแผลพุพองยาว 4 ซ.ม.บนหน้าอก ขณะกำลังนอนหลับโดยชาร์จมือถือไว้ข้างตัว
26 ส.ค.2557 ข่าวล่าสุด เมื่อโทรศัพท์รุ่น OnePlus One เกิดเหตุระเบิดขึ้นขณะใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของหนุ่มรายหนึ่ง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า โชคดีเจ้าของได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
"มือถือระเบิดนั้นเกิดขึ้นได้ แต่เกิดขึ้นได้ยากมาก ชิ้นส่วนสำคัญอย่างเดียวที่ทำให้เกิดระเบิดขึ้นได้นั่นคือ แบตเตอรี"
เป็นคำยืนยันของ ผศ.ดร.บุญยัง ปลั่งกลาง รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือรายนี้อธิบายว่าสาเหตุสำคัญอยู่ตรงแบตเตอรีไม่ได้มาตรฐาน
"ยกตัวอย่าง แบตเตอรีของปลอม หรือแบตเตอรีของแท้ แต่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน เกิดตกหล่นได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนบิดเบี้ยว แตกหัก ทำเปียกน้ำจนเกิดอาการบวม หรือใช้งานมานานจนเสื่อม แบตเตอรี่มือถือเป็นอุปกรณ์ที่บรรจุสารเคมีและมีประจุไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราทำตกกระแทกอย่างรุนแรง แล้วเอากลับมาใส่ใหม่ หรือทำเปียกน้ำ เรานำไปเป่าให้แห้ง แล้วนำกลับมาใช้ พอเวลาชาร์จ ความร้อน การลัดวงจร การส่งกระแสไฟเข้าไปผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นและระเบิดได้เหมือนกัน ฉะนั้นทิ้งไปดีกว่า ไม่ควรนำมาใช้ต่อ"
กว่า 90 % ของเหตุโทรศัพท์มือถือไฟรั่ว ช็อต หรือระเบิดเกิดขึ้นขณะที่กำลังชาร์จไฟ
"หลายเคสที่ผ่านมาพบว่าเสียบปลั๊กชาร์จทิ้งไว้มากเกินไปจนเกิดความร้อน บางเคสใช้สายชาร์จปลอม บ้างชำรุดเสียหายแต่ยังฝืนใช้อยู่ เสียชีวิตไปเพราะไฟดูดตายก็เยอะ"
ผศ.ดร.บุญยัง ฝากไปยังผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหลายว่าอยากให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการ "ใช้" และ "ชาร์จ" มือถือเสียใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
"การชาร์จมือถือไว้บริเวณหัวเตียงใกล้ศีรษะเป็นสิ่งไม่ดีเลย ควรเอาไว้ไกลตัวดีที่สุด ถึงจะมีความจำเป็นแค่ไหนก็ตาม อันตรายน่ากลัวกว่าคือไฟลัดวงจร รั่วไหล พอไปจับก็โดนดูดหรือช็อตตายได้ ยิ่งพวกที่เสียบชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วยนี่ยิ่งเสี่ยง ไม่เว้นแม้กระทั่งพาวเวอร์แบงค์ แนะนำว่าควรใช้อุปกรณ์ที่ได้คุณภาพได้มาตรฐาน ซื้อจากศูนย์ หรือร้านที่เชื่อถือได้ หลีกเลี่ยงของปลอมของทำเลียนแบบราคาถูกซึ่งไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้หากอุปกรณ์ชำรุดเสียหาย บิดเบี้ยวแตกหัก โดนน้ำ หรือเก่าจนเสื่อมสภาพ ก็ไม่ควรใช้ต่อ ซื้อใหม่ดีที่สุด"
แม้ปัญหาเรื่องโทรศัพท์มือถือระเบิดจะเกิดขึ้นน้อยและยากมากๆ ทว่าการป้องกันที่ถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
การระมัดระวังตื่นตัวเป็นเรื่องดี แต่อย่าตื่นตูมจนกลายเป็นหวาดระแวงเลยจะดีที่สุด.
ภาพประกอบ : http://www.macthai.com/


