เปิดกรณีศึกษาอุบัติเหตุรถต่างชาติมีเอกสิทธิคุ้มกันคู่กรณีเสียเปรียบ

เปิดกรณีศึกษาปี52พบเจ้าหน้าที่สถานเอกอัคราชทูตฯปฏิเสธจ่ายค่าเสียหายหลังเกิดอุบัติเหตุและเป็นฝ่ายผิด เหตุมีเอกสิทธิ์คุ้มกัน ขณะที่ ปลัดกต.ระบุทำผิดกฎจราจรต้องดำเนินคดีตามกม.

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเผยแพร่คลิปวีดีโอเผยภาพรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อแลนด์ โรเวอร์ ทะเบียนสีฟ้า (ทะเบียนองค์กร) อ11-0060 ขับรถย้อนและบีบแตรไล่รถยนต์คันอื่นที่วิ่งมาอย่างถูกกฎหมาย จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องมาที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อจะได้ประสานและตรวจสอบว่าเป็นรถของสถานเอกอัครราชทูตประเทศใดหรือองค์กรระหว่างประเทศองค์กรไหน แล้วจึงจะได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตของประเทศนั้นๆ หรือองค์กรระหว่างประเทศดังกล่าวให้รับทราบ เพื่อให้นำตัวผู้ขับรถคันนั้นไปดำเนินคดีตามกฎหมายจราจรของไทย เพราะแม้จะเป็นรถยนต์ที่ทะเบียนทูตหรือองค์กรต่างประเทศ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎจราจรของไทย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของโพสต์ทูเดย์พบว่า ในรายงานการศึกษาส่วนบุคคล (Indivdual Study) เรื่อง การแก้ไขปัญหาการละเมิดเอกสิทธิ์ทางทูตและทางกงสุล : กรณีศึกษาเอกสิทธิ์ที่ให้แก่รถยนต์ที่ได้รับเอกสิทธิ์ของคณะผู้แทนทางทูตในประเทศไทย จัดทําโดย นางทิพยาภรณ กุมภีร ซึ่งได้มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศนั้น ได้มีการยกตัวอย่าง อุบัติเหตุรถยนต์ระหวางรถยนต์สถานเอกอัคราชทูตบางประเทศกับรถยนต์ของเอกชนไทยในปี 2552 เป็นกรณีศึกษาโดยระบุว่า 

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตํารวจพบว่า เจ้าหน้าที่สถานเอกอัคราชทูตฯ ผู้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าวเป็นฝายผิด แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่สถานเอกอัคราชทูตฯ ดังกล่าวปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายฝ่ายไทย จึงทําให้ผู้เสียหายคนไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เนื่องจากผู้กระทําผิดกฎจราจรเป็นผู้มีเอกสิทธิ์อ้างความคุ้มกัน ทําให้ศาลไม่สามารถบังคับคดีได้

รายงานดังกล่าวได้สรุปข้อเสนอแนะว่า ควรกําหนดให้รถยนต์ที่ได้รับเอกสิทธิ์ของสถานเอกอัคราชทูต สถานกงสุล และองค์การระหว่างประเทศ ทุกคัน ทั้งที่เป็นรถสํานักงานและรถส่วนตัว ต้องมีการประกันภัยรถยนต์ อย่างน้อยที่สุดใหมีการประกันภัยบุคลที่ 3 ตามพระราชบัญัติประกันภัยรถยนต์

ก่อนหน้านี้เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ปลายสายได้ให้คำตอบว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ และทูตประเทศต่าง ๆ ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ ขออธิบายว่า ปกติรถทูตจะได้รับสิทธิ์พิเศษในการเดินรถอยู่แล้ว และขอไม่ให้รายละเอียดว่ารถคันดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากสถานทูตมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และจะไม่ตอบคำถามใด ๆ ต่อผู้สื่อข่าว ต้องรอเรียนปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน

ที่มารายงานการศึกษา : http://www.mfa.go.th/dvifa/contents/filemanager/files/nbt/nbt3/IS3005.pdf

ชมคลิปเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทะเบียนสีฟ้าขับย้อนศร http://youtu.be/Nsfs5mlaDFo