เจ้ากรมพระธรรมนูญแจงปืนหาย46กระบอก

เจ้ากรมพระธรรมนูญ แจงปืนพกสั้น ของกลาง46กระบอกหาย รวบ "เรืออากาศเอก" ได้แล้ว เหลือ "จ่าสิบเอก"หลบหนี ยันไม่ใช่อาวุธสงคราม

พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ พร้อมด้วย พล.ร.ท.กฤษฎา เจริญพานิช หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร เปิดแถลงข่าว ชี้แจงกรณี อาวุธปืนของกลางจำนวน 46 กระบอก  สูญหายว่า  ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนายทหารทั้ง 2 นาย คือ ร.อ.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ และ จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว ร.อ.ชินพล ออรุ่งโรจน์ นายทหารประจำแผนกเก็บรักษาของศาลทหารกรุงเทพฯ และฝากขังไว้ที่เรือนจำทหารอากาศ ดอนเมือง โดยไม่ให้ประกันตัว แต่ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งจากพยานหลักฐานทั้งหมด เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะในสถานที่ดังกล่าวบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้โดยเด็ดขาด

ส่วน จ.ส.อ.สมเกียรติ ม้ายอง เจ้าหน้าที่เสมียนตรา ศาลทหารกรุงเทพฯ นั้น ตำรวจกำลังดำเนินการติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี โดยนายทหารทั้ง 2 นาย ได้ถูกสั่งพักราชการแล้ว และไม่ได้รับเงินเดือน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการความผิดทางวินัย เนื่องจากต้องรอให้การดำเนินการทางด้านคดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ หากศาลทหารกรุงเทพ ตัดสินว่ามีความผิดจะต้องถูกจำคุก สำหรับความผิดทางวินัยนั้น ก็จะต้องดำเนินการปลด ถอดยศ และไล่ออกจากราชการ

นอกจากนี้ ได้หารือกับกรมโยธาธิการทหารบก ในการสร้างสถานที่จัดเก็บของกลางให้มีความหนาแน่นและรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก  และติดกล้องวงจรปิด และจะมีการแก้กฎระเบียบราชการศาลทหาร ปี พ.ศ.2532 เพิ่มเติม เพื่อการป้องกันการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่

"เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลไม่ใช่ระบบ เพราะ ของกลางที่ถูกห้องเก็บ ที่ศาลทหารทั้ง28 แห่ง  ทั่วประเทศ ก็ไม่มีที่ไหน สูญหาย" พล.อ.จืระ กล่าว

พล.ร.ท. กฤษฎา เจริญพานิช หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร ยืนยันว่า อาวุธปืน 46 กระบอกที่หายนั้น เป็นอาวุธปืนสั้นพกพา ไม่ใช่อาวุธสงครามที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม หรือการเมือง หรือที่ได้จากการจับกุมของคสช. และ เป็นปืนของกลางในคดีอาญาของศาลทหารกรุงเทพ ที่คดีสิ้นสุดแล้ว คงเหลือแค่2 กระบอกเท่านั้น ที่อยู่ในคดี ตั้งแต่ ปี2555

ส่วนอาวุธที่คสช.ยึดไดัยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน ยังไม่ได้มาถึงขั้นตอนการสอบสวนของศาลทหารแม้แต่คดีเดียว