ภูมิใจไทย-ชาติพัฒนาสวมบท"นอมินี"คสช.
บทบาทของพรรคภูมิใจไทยและชาติพัฒนา จึงน่าจะเป็นมือไม้ที่สำคัญกับการร่วมผลักดันภารกิจปฏิรูปประเทศ
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
สัญญาณชัดเจนเมื่อ ภูมิใจไทย-ชาติพัฒนา ประกาศเตรียมส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สวนทางกับท่าทีของพรรคการเมืองอื่นอย่าง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และชาติไทย ซึ่งยืนกรานไม่ส่งคนเข้าร่วมเป็น สปช. เนื่องจากเกรงปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะในฐานะพรรคการเมืองที่ถูกตีตราให้เป็น “จำเลย” หนึ่งในต้นเหตุพาประเทศเข้าสู่วังวนความขัดแย้ง การเข้าไปนั่งในกลไกการปฏิรูปประเทศย่อมอาจถูกครหาเรื่องการมีส่วนได้ส่วนเสียนับจากนี้
การเปิดหน้าไพ่เข้าร่วมงานกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของสองพรรคขนาดกลางเวลานี้ ย่อมทำให้สังคมต้องหันมาจับตา “บทบาท” และ “หน้าที่” ของทั้งพรรคภูมิใจไทยและชาติพัฒนานับจากนี้ ในฐานะมือไม้ที่จะเข้ามาดำเนินการทั้งเรื่อง “ปฏิรูป” ไปจนถึงบทบาทหลังจากนั้นเมื่อถึงวันที่จะต้องเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง ที่อาจทำให้ถูกมองได้ว่า ทั้งสองพรรคนี้จะยังคงเป็น “นอมินี” รับไม้ต่อรักษาอำนาจ คสช.ต่อไปอีกหรือไม่
สาเหตุที่ต้องเป็นภูมิใจไทยและชาติพัฒนา เพราะหากประเมินศักยภาพจากการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมาคะแนนเสียงรวมกันไม่กี่สิบเสียงยากที่จะมีพลังเพียงพอไปคะคานกันขั้วอำนาจเก่า หรือจะประกาศตัวเป็นทางเลือกใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้อย่างไร
ทว่า หากตัดพรรคเพื่อไทยซึ่งคงเป็นไปได้ยากที่จะให้เปลี่ยนจุดยืนมาร่วมไม้ร่วมมือกับ คสช. ก็เหลือแต่แนวร่วมอย่างประชาธิปัตย์ แต่ทว่าเวลานี้ความระหองระแหงจากบรรดาพลพรรคประชาธิปัตย์ออกมาติติงการทำงาน คสช.หลายต่อหลายเรื่องทำให้ช่องว่างเริ่มจะมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อรวมกับท่าทีของ คสช.ที่ตั้งเค้าไม่รับลูกแนวทางการปฏิรูป ทั้งการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด การปรับโครงสร้างตำรวจไม่ให้รวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง ไปจนถึงแนวคิดเรื่อง “นิรโทษกรรม” จนประชาธิปัตย์ต้องออกมาดักคอไม่อยากให้เป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ ทั้งหลายเหล่านี้ทำให้ คสช.ไม่อาจฝากผีฝากไข้กับประชาธิปัตย์ได้อีกต่อไป และจำเป็นต้องแสวงหาแนวร่วมที่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อจากนี้
ยิ่งหากส่องดู “สายสัมพันธ์” ภายในพรรคภูมิใจไทยและชาติพัฒนากับ คสช. จะเห็น “จิ๊กซอว์” เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มรัฐประหาร ทหารเก่า ทหารปัจจุบัน และกลุ่มการเมืองที่กำลังหลอมรวมเป็นขั้วอำนาจใหม่ที่น่าจับตา
เริ่มตั้งแต่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศส่ง ปู่ชัย ชิดชอบ เป็นสมาชิก สปช. เพราะเป็นผู้มีอาวุโสและมากด้วยประสบการณ์ ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งยุคสว่าง ยุคมืด แถมยังเคยฝากฝีไม้ลายมือเมื่อสมัยทำหน้าที่ประธานรัฐสภาได้อย่างดี
นอกจากประสบการณ์และลีลาความเก๋าแล้ว ปู่ชัยยังมีสถานะเป็นบิดาของ เนวิน ชิดชอบ บิ๊กภูมิใจไทย ที่เคยประกาศหันหลังให้การเมือง เดินหน้าทุ่มเทให้กับฟุตบอล แต่กลับยังมีข่าวคราวอยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่เรื่อยมา โดยเฉพาะล่าสุดที่แว่วว่ารอบนี้เนวินถูก คสช.เรียกใช้บริการ หลัง พระสุเทพ เทือกสุบรรณ ตัดสินใจหันหน้าเข้าหาทางธรรม
ไม่น่าแปลกใจ เมื่อบิ๊กเนสัมพันธ์แนบแน่นกับ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ที่เวลานี้เข้ามานั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษา คสช. พร้อมยกเครือข่ายบูรพาพยัคฆ์มาช่วยงานยกทีม แถมยังมีประสบการณ์ตั้งแต่เมื่อครั้งรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549
กลับมารอบนี้ เนวินจัดเต็มขนทีมงานชุดใหญ่มาช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กโป๋-ธีรพล นพรัมภา หนึ่งในแก๊งออฟโฟร์ สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช บิ๊กหนก-กนกศักดิ์ ปิ่นแสง เรื่อยมาจนถึง บิ๊กคิง เพาเวอร์ อย่าง เสี่ยวิชัย รักศรีอักษร “เนวิน คอนเนกชั่น” ยังรวมไปถึง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.
จุดเด่นของ “ภูมิใจไทย” อีกจุดหนึ่งคือ สถานะของ เสี่ยหนู อนุทิน ที่ยังรักษาสัมพันธ์ต่อสายคุยกับคนแดนไกลได้ ดังนั้นย่อมเป็นผลดีกับการทำงานการเมืองในวันข้างหน้า
ถัดมาที่พรรคชาติพัฒนา ชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรค ประกาศพร้อมส่งตัวแทนเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ด้วยเหตุผล “เมื่อนักการเมืองถูกข้อครหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งของชาติ เราจึงควรเข้าไปสะท้อนปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไข ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติได้อย่างตรงจุดที่สุด”
งานนี้เป็นไปได้สูงว่า บิ๊กเยิ้ม-พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร จะเป็นตัวแทนของพรรคชาติพัฒนาไปนั่งเก้าอี้ สปช. หลังจากก่อนหน้านี้ขาดคุณสมบัติจนทำให้ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
แม้จะเป็นพรรคขนาดเล็กแต่ด้วยชื่อชั้นของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ บิ๊กการเมืองที่ยังมีคอนเนกชั่นรอบตัว ย่อมเป็นจุดแข็งสำคัญเอื้อให้การเดินหน้าปฏิรูปประเทศซึ่งต้องใช้ความร่วมมือของทุกฝักทุกฝ่ายอย่างจริงจังกับการเข็นภารกิจระดับชาติรอบนี้
ส่องดูสัมพันธ์ระหว่าง สุวัจน์ กับ คสช. ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีบิ๊กเยิ้ม ในฐานะเตรียมทหารรุ่น 12 เพื่อนร่วมรุ่นกับ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นตัวเชื่อมสำคัญ ที่ทำให้ทุกอย่างคุยกันง่ายขึ้น
เส้นทางต่อจากนี้บทบาทของพรรคภูมิใจไทยและชาติพัฒนา จึงน่าจะเป็นมือไม้ที่สำคัญกับการร่วมผลักดันภารกิจปฏิรูปประเทศ ประคับประคองการบริหารของ คสช. ท่ามกลางการจับตาว่าทั้งสองพรรคนี้จะเป็น “นอมินี” รักษาฐานอำนาจของ คสช.เอาไว้ต่อไปหรือไม่


