ชงประกาศ"อีโบลา"เป็นโรคติดต่ออันตราย

ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคเสนอเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่กักกันผู้ต้องสงสัยติดอีโบลา สร้างความเชื่อมั่นคนไทย

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่สถาบันราชประชาสมาสัย นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และประธานอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการและยุทธศาสตร์ เพื่อเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ครั้งที่ 6/2557 เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เปิดเผยว่า ที่ประชุมที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เข้าร่วมประชุมมีข้อเสนอให้ประกาศโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2523 เนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์และจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้มากขึ้น เพื่อลดการตื่นตระหนก โดยหากรัฐบาลตอบรับ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการให้ รมว.สาธารณสุข เป็นผู้ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นพ.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า การประกาศเป็นโรคติดต่ออันตราย จะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีอำนาจและมีความมั่นใจในการป้องกันควบคุมโรคมากขึ้น โดยสามารถกักกันผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยว่าป่วย หรือผู้ที่เดินทางเข้าประเทศได้ทันที โดยขณะนี้ ผู้ที่ต้องเฝ้าระวังคือผู้เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส และมีประวัติเดินทางจากประเทศที่มีการติดเชื้อ 4 ประเทศ ได้แก่ ไลบีเรีย กินี เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย รวมถึงมีอาการใกล้เคียงกับโรคอีโบลา มีประวัติสัมผัสโรค และมีเกล็ดเลือดต่ำ นอกจากนี้ ยังให้อำนาจในการขอที่อยู่เพื่อติดตามเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัว นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ยังกำหนดชื่อเรียกโรคอย่างเป็นทางการว่า “โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา” หรือ” โรคอีโบลา”  ไม่ใช่ “โรคไข้เลือดออกอีโบลา” ซึ่งจะทำให้สับสนกับโรคไข้เลือดออกซึ่งมีหลายสายพันธุ์

ขณะที่ นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วิธีการรักษาแพทย์ชาวอเมริกัน โดยใช้พลาสม่า ทำเป็นเซรุ่มนั้น เป็นวิธีการปกติ คล้ายกับการทำเซรุ่มแก้พิษงู โดยเลือดของคนที่เคยติดเชื้อแล้วรักษาหาย จะมีภูมิต้านทาน จึงนำมาฉีดให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งตามหลักการ จะช่วยให้ผู้ป่วนมีอาการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในคน ทั้งนี้ เชื่อว่า อาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนายาและวัคซีนป้องกัน