posttoday

ขอแค่ไม่เจอพาล

03 สิงหาคม 2557

ท่านผู้อ่านเคยได้ยินวลีประมาณนี้ไหมครับ เช่น คนดีไม่กลัว คนชั่วให้ไกล

ท่านผู้อ่านเคยได้ยินวลีประมาณนี้ไหมครับ เช่น คนดีไม่กลัว คนชั่วให้ไกล หรือห่างลิงให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา ห่างพาลาให้ห่างร้อยโยชน์พันโยชน์ ฯลฯ

คนชั่วร้ายกาจขนาดไหนคงไม่ต้องอธิบายมาก เพราะมีตัวอย่างปรากฏให้เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ต่างๆ ทุกวี่วันอยู่แล้ว

พระพุทธศาสนาเรียกคนชั่วว่า คนพาล หรือปาปบุคคล (ปาปะบุคคล) และสอนไม่ให้เข้าใกล้ ไม่ให้ไปสนิทชิดเชื้อทำความรู้จัก ไม่ให้ไปคบหาสมาคมกับคนชั่ว

เพราะคนชั่วเต็มไปด้วยภัย อันตราย อุปสรรคต่างๆ มากมีที่พร้อมจะส่งต่อให้กับคนที่เข้าใกล้ คบหา สนิทชิดเชื้อด้วยทุกเวลา (ภัย อันตราย อุปสรรคเกิดแต่คนพาล)

คนชั่วร้ายกาจมาก จนมีบุคคลคนหนึ่งถึงกับตั้งใจความปรารถนาและเปล่งวาจาว่า ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ขออย่าพบเจอคนชั่วทุกชาติไป

คนคนนี้ชื่อว่า “อกิตติบัณฑิต” แปลว่า บัณฑิตผู้ไม่ฝักใฝ่ในชื่อเสียง เกียรติยศ แล้วปฏิบัติตนสมชื่อจริงๆ ด้วย คือหันหลังให้กับทรัพย์สมบัติภายนอกเพื่อออกบวช

ได้ยินมาว่า อกิตติบัณฑิตนั้น เป็นคนมีฐานะ ถ้าเรียกในสมัยนี้ก็ระดับเศรษฐี เพราะพ่อของเขาเป็นเศรษฐีเก่ามีทรัพย์มากถึง 80 โกฏิ ที่ต่อมาเสียชีวิตและทรัพย์สมบัติทั้งหมดจึงตกเป็นของเขา

แต่เขาก็ทำเซอร์ไพรส์มาก...ด้วยการมอบทรัพย์ทั้งหมดช่วยเหลือสังคม คนยากคนจน ส่วนตนออกบวชเข้าไปอาศัยอยู่ในสวนป่าแห่งหนึ่งคนเดียว

ยอมรับว่า อกิตติบัณฑิต นั้นมีเป้าหมายชัดเจน คือ การออกบวช และตามประวัติก็ไม่ปรากฏว่าเขามีครอบครัว มีลูกมีเมีย ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากต่อการตัดสินใจที่จะหันหลังให้กับทางโลก

การอยู่ในป่าที่สงัดเงียบคนเดียวทำให้อกิตติดาบสได้ฌานและอภิญญา และการได้ฌานและอภิญญานั้นทำให้สามารถเดินทางด้วยการเหาะไปได้

วันหนึ่ง อกิตติดาบส จึงเหาะไปอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเกาะที่เต็มไปด้วยรุกขชาติโดยเฉพาะไม้หมากเม่า และไม้กากะทิง แล้วท่านก็อาศัยภายในต้นหมากเม่าใหญ่ต้นหนึ่งเป็นที่สร้างบรรณศาลา (ศาลามุงด้วยใบไม้)

ดำรงชีวิตอยู่ด้วยวิถีของผู้ที่สันโดษ และมีความปรารถนาน้อย ไม่ย้ายที่ไปไหนเลย ในคราวที่ต้นไม้ออกผลก็บริโภคผลไม้ คราที่ไม่มีผลก็บริโภคใบไม้

ปฏิปทาและศีลของอกิตติดาบสทำให้อาสน์ของพระอินทร์ร้อน จนพระอินทร์ต้องการที่จะทดลองศีลาจารวัตรของอกิตติดาบส จึงได้แปลงร่างเป็นพราหมณ์แก่ทำทีไปยืนขอทานอยู่ในบริเวณที่อยู่ของอกิตติดาบส

ณ ขณะนั้น อกิตติดาบสนึ่งใบหมากเม่าอยู่และปลงลงจากเตาแล้วก็ถือเอาไปนั่งอยู่ที่ประตูบรรณศาลา ตั้งใจว่าจะบริโภคใบหมากเม่าที่เย็นแล้ว

พอดีเหลือบไปเห็นพราหมณ์แปลงกาย ก็เกิดจิตโสมนัส ใส่ใบหมากเม่าลงในภาชนะอาหารของพราหมณ์นั้น ไม่เหลือไว้สำหรับตนเลย แล้วไม่นึ่งใบหมากเม่าใหม่ด้วย

ถึงตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นจิตใจที่มากด้วยความเมตตากรุณาอย่างยิ่งของอกิตติดาบส เพราะให้ใบหมากเม่าทั้งหลายไม่เหลือสำหรับตนและยังไม่นึ่งใหม่

ช่างเป็นผู้ที่สันโดษและปรารถนาน้อยสมกับการสละทรัพย์สมบัติจำนวนมากออกบวชโดยแท้

ฝ่ายพราหมณ์แปลงกายได้ใบหมากเม่านึ่งจากอกิตติดาบสแล้ว ก็เดินไปได้หน่อยหนึ่งแล้วก็หายไป และได้ทำโดยอุบายอย่างนี้ติดต่อกันถึง 3 วันซ้อน

ทดลองอยู่ 3 วัน พระอินทร์เกิดความเลื่อมใสในศีลาจารวัตรของอกิตติดาบส ในที่สุดก็ประกาศตน พร้อมได้ประทานพรแก่อกิตติดาบส

แต่ก่อนจะรับพรจากพระอินทร์ อกิตติดาบสได้กล่าวขึ้นว่า ขอข้าพเจ้าอย่าได้เห็น อย่าได้ยิน อย่าได้อยู่ร่วมกับคนชั่ว และอย่าได้ชอบใจคำพูดคนชั่วหากได้สนทนาปราศรัยด้วย

พระอินทร์เลยถามไปว่า คนชั่วไปทำอะไรให้ท่าน ช่วยบอกหน่อย และเพราะอะไรจึงไม่อยากพบอยากเห็นคนชั่ว ช่วยแจงอีกประเด็น

อกิตติดาบสจึงทูลไปว่า คนชั่วปัญญาโฉด (ใช้ความรู้ในทางไม่ดี) แนะนำสิ่งที่ไม่ควรแนะนำ ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ การแนะนำชั่วเป็นแนวทางของคนชั่ว คนชั่วแม้จะพูดดีด้วยก็โกรธ ฉะนั้นไม่คบคนชั่วเสียได้ ดีนักแล

ขอข้าพเจ้าได้พบแต่คนดี (บัณฑิต) ได้ยิน (สิ่งที่คนดีพูด) ได้อยู่ร่วมกับคนดี และได้สนทนาปราศรัยกับคนดี เพราะคนดีจะแนะนำแต่สิ่งที่ดีที่ถูกธรรม คนดีถูกคนอื่นกล่าวสอนก็ไม่โกรธ และการสมาคมคนดีก็เป็นมงคลความดี

สรุป คนชั่วควรหลีกให้ไกล อย่าคิดสนทนาด้วย อย่าสมาคมเป็นอันขาด เลี่ยงได้ให้เลี่ยง เพราะภัย อันตราย แต่คนชั่วนั้นเยอะจริงๆ ผลที่ได้รับ เช่น ความเจ็บตัว เจ็บใจ เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ตรอมตรม

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1