ประวัติศาสตร์อาจต้องเปลี่ยน เมื่อลิงจุดไฟ?
หากให้นับจากหลักฐานที่พบว่ามนุษย์จุดไฟเพื่อใช้ประโยชน์ได้ครั้งแรกนั้น ก็ล่วงเลยมากว่า 7.9 แสนปีแล้ว
โดย...รักษ์ศักดิ์ สิทธิวิไล สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
หากให้นับจากหลักฐานที่พบว่ามนุษย์จุดไฟเพื่อใช้ประโยชน์ได้ครั้งแรกนั้น ก็ล่วงเลยมากว่า 7.9 แสนปีแล้ว โดยแม้จะยังไม่ชัดเจนว่าครั้งนั้นมนุษย์สามารถจุดไฟได้เองหรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อย่างปรากฏการณ์ฟ้าผ่าหรือไฟป่าก็ตาม แต่ก็นับได้ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวในโลกที่สามารถควบคุมไฟไว้ใช้งานได้
กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเร่งเร้าวิวัฒนาการของมนุษย์ให้มีคุณลักษณะพิเศษที่เพียงพอจะยึดครองโลก
ทั้งนี้ ครั้งหนึ่งมนุษย์เราใช้อำนาจของไฟในการพิทักษ์เผ่าพันธุ์ให้ปลอดภัยจากสัตว์ร้าย ขณะเดียวกันไฟยังให้ความอบอุ่นและแสงสว่างนำทางในที่มืด ซึ่งช่วยให้มนุษย์ปลอดภัยมากพอที่จะอพยพไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคยที่พร้อมและสมบูรณ์พร้อมกว่าถิ่นอาศัยเดิม
นอกจากนี้ การควบคุมไฟช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อถึงกันระหว่างมนุษย์ ก่อให้เกิดการเติบโตทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย กระทั่งทำให้มนุษย์กลายเป็นมนุษย์เช่นทุกวันนี้ และกลายเป็นสายพันธุ์มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็น “สปีชีส์ที่พบได้ทั่วโลก” (Cosmopolitan Species) ไปแล้ว
ขณะที่แม่บ้านยุคใหม่ป้ายแดงหลายคนกำลังปวดหัวกับการทอดไข่ดาวอย่างไรให้สุกจากกระทะไฟฟ้าที่บ้าน ความคืบหน้าล่าสุดมีการค้นพบว่า ญาติสนิทของมนุษย์ก็เริ่มที่จะทำแฮมเบอร์เกอร์เนื้อกินเองเป็นแล้ว!!
เมื่อไม่นานมานี้ รายการสารคดี BBC ได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเสมือนได้ชมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เมื่อบรรพบุรุษมนุษย์เริ่มต้นใช้ไฟอีกครั้ง ด้วยการเผยแพร่ภาพ คานซี่ (Kanzi) ขณะลงมือก่อไฟและทำอาหารกินเอง
คานซี่เป็น 1 ใน 8 ลิงพันธุ์โบโนโบ (Bonobo) หรือชิมแปนซีแคระ ที่ได้ชื่อว่าเป็นลิงอัจฉริยะที่สุดในโลก ในความดูแลของ ดร.ซู ซาเวจ รัมบอค (Dr.Sue SavageRumbaugh) นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาพฤติกรรมและการสื่อสารของลิงแห่งเกรทเอพทรัสต์ ในดิมอยน์ รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดร.ซู ซาเวจ กล่าวว่า เมื่อมีโอกาสคานซี่ชอบควานหากิ่งไม้แห้งตามพื้น เพื่อนำมาก่อไฟทำอาหารเองอยู่เสมอ จุดเริ่มต้นสำคัญน่าจะเกิดจากเมื่อตอนที่มันยังเล็ก มันได้ชมภาพยนตร์เรื่อง “Quest For Fire” ซึ่งเป็นเรื่องราวของมนุษย์ในยุคแรกที่ค้นพบไฟ มันดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายรอบ จนกระทั่ง 5 ขวบ จึงเริ่มก่อไฟจากกระดูกสัตว์แห้งเล็กๆ ได้เอง เธอเชื่อว่าคานซี่กับความรู้เรื่องไฟของมันคือตัวอย่างของการพัฒนาการของสติปัญญาในวิวัฒนาการของมนุษย์นั่นเอง
คานซี่เป็นลิงโบโนโบเพศผู้ มีลักษณะทั่วไปเหมือนกับชิมแปนซีที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก เกิดมาตั้งแต่ปี 1980 ปัจจุบันคานซี่อายุกว่า 37 ปีแล้ว สามารถที่จะทำขนมหวาน เรียนรู้ที่จะเอาเนื้อไปย่างเพื่อทำแฮมเบอร์เกอร์ และหลังจากปรุงอาหารในกองไฟเสร็จ ยังรู้จักที่จะควบคุมการลุกไหม้ของไฟ ด้วยการหาน้ำมารดเพื่อดับฟืนเสียด้วย
ที่สำคัญกว่านั้น ขณะนี้ลิงแสนรู้ตัวนี้กำลังถ่ายทอดทักษะในการดำรงชีพดังกล่าวให้กับลิงโบโนโบเพศผู้ที่ชื่อว่า ทีโก (Teco) ลูกชายแท้ๆ ทั้งนี้คานซี่เป็นผลสำเร็จจากการทดลองด้านสื่อสาร เพื่อกระตุ้นให้ลิงเกิดการเรียนรู้และการสื่อสารในด้านต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ลิงทุกตัวที่จะมีความสามารถดังกล่าว
ใครก็ตามที่เคยชมภาพยนตร์เรื่อง Rise Of The Planet Of The Apes (กำเนิดพิภพวานร) จะรู้ว่าภาพยนตร์ได้บอกเล่าเรื่องราวในจินตนาการกับการก้าวกระโดดของเผ่าพันธุ์วานร โดยเริ่มต้นจากความถือดีของมนุษย์ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอำนาจในการครองโลกในปัจจุบัน กระทั่งกลายเป็นชนวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของบรรดาฝูงวานรในห้องทดลอง จนกล้าเผชิญหน้ากับมนุษยชาติในท้ายที่สุด
อันที่จริงแล้วเรื่องยุ่งๆ ของคนกับลิง จะดูไปก็คงไม่ไกลตัวเกินไปนัก เพราะจาก ค.คน ถึง ล.ลิง ก็ห่างกันแค่ไม่กี่ตัวอักษร (ไม่นับความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของดีเอ็นเออีก)
แต่เพียงแค่ ค.คน ริเริ่มใช้ไฟได้ก่อน ล.ลิง ก็เพียงพอที่ ค.คน จะฉลาดล้ำนำหน้า ล.ลิง จนวันนี้ต้องย้อนกลับไปเฝ้ามอง (ทำวิจัย) ล.ลิง เอาใจช่วยว่าเมื่อไรเจ้าลิงจะฉลาดเหมือนคน


