นศ.ปกป้องครูแจงคลิปแสตมป์แลกเกรดไม่จริง

กาฬสินธุ์-นักศึกษาม.ราชภัฎกาฬสินธุ์แจงคลิปแสตมป์แลกเกรดไม่จริง ด้านอธิการบดีเร่งสอบวินัย

คณะนักศึกษาสาขาปฐมวัย 53 มหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ อีกหนึ่งกลุ่ม ได้ทำหนังสือขอนัดสื่อมวนชลแถลงข้อเท็จจริงในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ พร้อมข้อความระบุว่า ตามที่มีกระแสข่าวกรณีเผยแพร่คลิปแสตมป์แลกเกรดผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค  ชื่อว่า" อาจารย์สาว แสตมป์+เครื่องแก้วแลกเกรด"กล่าวหาว่าอาจารย์สาวให้นักศึกษาเอาแสตมป์ร้านสะดวกซื้อชื่อดังและชุดเครื่องแก้วแลกเกรด ถูกบังคับให้ไปเที่ยวเวียดนามอ้างไปดูงานนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของอาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันที่ไม่พอใจกัน จึงได้หาทางกลั่นแกล้ง ขณะเดียวกันได้ทำหนังสือร้องเรียนส่งให้มหาวิทยาลัย ท้ายหนังสือลงชื่อผู้ร้องเรียนว่าเป็นปฐมวัย 53 เมื่ออาจารย์ที่ถูกร้องทราบเรื่อง ก็ได้อธิบายต่อนักศึกษาปฐมวัย 53 ถึงเรื่องข้อร้องเรียนว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร แต่มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งซึ่งสนิทกับอาจารย์ที่ไม่พอใจ ได้แอบถ่ายคลิปดังกล่าวไว้

ข้อเท็จจริงนักศึกษาทั้งหมดไม่มีใครร้องเรียนอาจารย์ ผู้ที่ร้องเรียนเป็นอาจารย์ด้วยกัน เนื่องจากมีหลักฐานการคุยกันถึงเรื่องนี้การตกแต่งและการปล่อยคลิป นักศึกษาทั้งหมดที่เห็นคลิปและข่าวที่ออกทั้งทีวีและหนังสือพิมพ์ต่างไม่พอใจ เนื่องจากทำให้นักศึกษาปฐมวัย 53 เสียหาย เพราะเรื่องจริงไม่เป็นไปตามคลิปที่ปล่อยออกมา และยินดีร่วมแถลงข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบ ในวันเวลาที่แจ้ง
 
นายนพพร โฆสิระโยธิน รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกาฬสินธุ์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีคลิปพฤติกรรมอาจารย์ที่เผยแพร่ออกไปทางสื่อต่างๆ โดยข้อความระบุว่า ตามที่มีผู้นำคลิปของอาจารย์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยฯไปเผยแพร่ตามสื่อต่างๆนั้น มหาวิทยาลัยขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกันว่า กรณีนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล หลังจากที่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนักศึกษา เรื่องพฤติกรรมอาจารย์ประพฤติตนไม่เหมาะสมทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานการสอบสวนพิจารณา เพื่อลงโทษทางวินัยข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนของทางราชการสรุปดังนี้
 
นักศึกษาสาขาปฐมวัย ชั้นปีที่ 4 ภาคพิเศษ รหัสปี 2553 ได้ส่งหนังสือร้องเรียนมายังอธิการบดีกรณีอาจารย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับนักศึกษา เรียกรับสิ่งของจากนักศึกษา เพื่อแลกการปรับค่าคะแนน บังคับให้นักศึกษาไปศึกษาดูงานทั้งในและนอกประเทศ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2557  ซึ่งเมื่อได้รับหนังสือแล้วทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาข้อกล่าวหาและได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ทราบความเป็นจริงและเกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทันที
 
จากนั้นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง จึงได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีมูลอันเป็นความผิดทางวินัย เสนอต่ออธิการบดี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2557 แต่เนื่องจากรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงมีมูลอันเป็นความผิดทางวินัยมหาวิทยาลัยจักต้องดำเนินการตามกระบวนการมาตรฐานการสอบสวนพิจารณาเพื่อลงโทษทางวินัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการของกฏหมาย.