posttoday

ฟุตบอลโลกของหมายเลข 10

09 กรกฎาคม 2557

อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าชื่อดังของทีมชาติอังกฤษได้ออกมาวิเคราะห์ว่าฟุตบอลโลก 2014 เที่ยวนี้กลายเป็นเวทีของบรรดานักเตะที่ใส่เสื้อหมายเลข 10

 สุรเดช สันติเลิศประภพ


 

อลัน เชียเรอร์ อดีตกองหน้าชื่อดังของทีมชาติอังกฤษได้ออกมาวิเคราะห์ว่าฟุตบอลโลก 2014 เที่ยวนี้กลายเป็นเวทีของบรรดานักเตะที่ใส่เสื้อหมายเลข 10 ที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง,จ่ายบอล, ปั้นเกม และที่สำคัญนักเตะหมายเลข 10 หลายๆคนในทัวร์นาเมนต์นี้ยังสามารถจะทำประตูได้มากเสียก่วาบรรดากองหน้าหมายเลข 9 ที่เราคุ้นเคยอีกด้วย

 

พูดถึงหมายเลขเสื้อกับเกมฟุตบอลนั้นถือว่าเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฟุตบอลในสมัยอดีตนั้นจะมีการกำหนดหมายเลขเสื้อสำหรับผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งไว้อย่างเป็นแบบเป็นแผนซึ่งถือว่าแตกต่างในยุคปัจจุบันที่ผู้เล่นสามารถจะเลือกใส่หมายเลขใดก็ได้ตามที่ต้องการแต่ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างเช่นไม่เกินหมายเลข 99

 

ความทรงจำและความผูกพันของแฟนบอลส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่กับนักเตะหมายเลข 7,8, 9, 10 และ 11 มากกว่าหมายเลขอื่นๆ เพราะนักเตะในหมายเลข 7-11 ส่วนใหญ่มักจะถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่หรือมีบทบาทในเกมรุกเป็นส่วนใหญ่

 

ในอดีตของฟุตบอลโลกนักเตะอย่าง เปเล่ หรือ มาราโดน่า ต่างก็เคยสวมใส่หมายเลข 10 ประสบความสำเร็จมากมาย ขณะที่นักเตะในหมายเลข 14 อย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ก็สร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองอย่างชัดเจนด้วยการไม่ได้ใส่หมายเลข 11 ตัวแรกแต่ก็อยู่ในความทรงจำของแฟนฟุตบอลทั่วโลกได้เช่นกัน

 

กลับมาที่มุมมองของ อลัน เชียเรอร์ ที่ว่าฟุตบอลโลกหนนี้เป็นฟุตบอลโลกของนักเตะหมายเลข 10 กันอีกครั้ง เชียเรอร์ ซึ่งเคยเป็นผู้เล่นที่สวมหมายเลข 9 ให้กับอังกฤษในฟุตบอลโลกมาแล้วและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการเป็นจอมถล่มประตูกับการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก

 

เชียเรอร์ ซึ่งปัจจุบันผันตัวเองมาทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์เกมทางทีวีมองว่า กองหน้าในแบบอย่างของหมายเลข 9 ได้รับความสำคัญในแท็คติกการเล่นที่น้อยลงกว่าเดิมและนั่นทำให้กองหน้าเหล่านี้สามารถทำประตูได้น้อย และมีผลงานที่ไม่ค่อยโดดเด่นนัก

 

หากเรามองจากสถิติประกอบจากเกมตั้งแต่รอบแรกมาจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็สอดคล้องกับมุมมองของ เชียเรอร์ ที่ว่านักเตะที่ขึ้นมาอยู่ในท็อปชาร์ตของดาวซัลโวในเวลานี้กลายเป็นนักเตะหมายเลข 10 แทบทั้งสิ้น

 

ฮาเมส โรดริเกวซ ของโคลัมเบีย ยังนำเป็นดาวซัลโวอยู่ด้วยจำนวน 6 ประตู ขณะที่กลุ่มตามมาอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, โธมัส มุลเลอร์ หรือ เนย์มาร์ ที่ปิดฉากตัวเองกับฟุตบอลโลกหนนี้ไปแล้วเพราะอาการบาดเจ็บ ต่างยิงได้เท่ากันหมดที่ตัวเลข 4 ประตู ส่วน คาริม เบนเซม่า และ อาร์เยน ร็อบเบน ก็ไม่ต่างกันมากนักไล่มาที่ 3 ประตู

 

เชียเรอร์ ให้ข้อคิดว่าเทรนด์ของฟุตบอลเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เขาเคยดูฟุตบอลโลกหนแรกของตัวเขาในปี 1982 และได้เห็นนักเตะอย่าง เปาโล รอสซี่ แจ้งเกิดกับแฮตทริคในเกมกับ บราซิล และช่วยให้ อิตาลี คว้าแชมป์ในบั้นปลาย เวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านไปหลังจากฟุตบอลโลกหนนั้น บทบาทของกองหน้าในแบบหมายเลข 9 ที่เขาเคยเป็นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

 

การที่นักเตะจอมทัพ หรือพวกนักเตะหมายเลข 10 ต้องได้รับบทบาทมากขึ้นในการทำเกมทำให้แท็คติกของฟุตบอลสมัยนี้ปรับให้พวกเขาต้องเพิ่มความสามารถในการทำประตูให้มากขึ้นกว่าเดิม และนั่นทำให้ความสำคัญในการทำประตูที่เคยแต่ต้องพึ่งพากองหน้าอย่างเดียวลดน้อยลงไป

 

และหากเรามองย้อนกลับมาที่ 4 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ามาถึงรอบตัดเชือกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราจะเห็นว่านักเตะหมายเลข 10 ของแต่ละทีมนั้นต่างทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหมือนกันทั้งหมด จะมีก็แต่ เนย์มาร์ ที่คงหมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมที่เหลืออยู่เพราะอาการกระดูกสันหลังร้าว

 

น่าสนใจเหมือนกันนะครับว่า บราซิล ที่ขาด เนย์มาร์ ไปแล้วจะทำได้ดีแค่ไหนกับเกมรอบตัดเชือกที่จะต้องใส่กับ เยอรมัน และจะส่งผลกับพวกเขาถึงขั้นไม่ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศเลยหรือไม่

 

ด้าน ลิโอเนล เมสซี่ ที่ได้รับการจับตามากๆว่ามีสิทธิ์จะพา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลก ถือว่ากำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้บางเกมเขาอาจจะไม่ได้ทำประตูชัยให้กับทีมด้วยตัวเองแต่การจ่ายบอลเพียงครั้งหรือสองครั้งในช่วงเวลาที่เป็นช่วงเวลาตัดสินเกมได้นั้น เมสซี่ ทำได้ดีมากๆในทัวร์นาเมนต์นี้

 

สำหรับ โธมัส มุลเลอร์ หมายเลข 10 ของเยอรมันยังทำได้ดีต่อเนื่องกับฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยที่ 2 ของเขา แม้จะไม่ได้มีเทคนิค หรือ ความสามารถเฉพาะตัวเป็นจุดขายแบบหมายเลข 10 คนอื่นๆ แต่ มุลเลอร์ ก็ทดแทนสิ่งนี้ด้วยการทำประตูที่เด็ดขาด ด้วยอายุอานามที่ยังไม่เยอะทำให้เขามีสิทธิ์จะขึ้นมาทาบสถิติต่างๆในเรื่องการทำประตูทั้งกับทีมชาติเยอรมันหรือจะเป็นสถิติการทำประตูในรอบสุดท้ายที่ตอนนี้เป็น โรนัลโด้ ของ บราซิล และรุ่นพี่ของเขาในทีมเยอรมันชุดนี้ด้วยกันอย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่ ครอบครองอยู่

 

สุดท้ายแล้วจะหมายเลข 10 หรือหมายเลข 9 หรือจะเป็นหมายเลขไหนๆก็ตาม ก็คงต้องทำผลงานให้ดีที่สุด ตามที่ได้รับมอบหมายจากโค้ชเมื่อลงมาในสนาม เหมือนดั่งคำที่ว่าฟุตบอลที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวอาจจะทำให้ทีมชนะได้ในบางเกม แต่ฟุตบอลที่จะเป็นแชมป์ได้ส่วนใหญ่นั้นต้องมาจากทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม

 

บทสรุปของความสำเร็จในฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นตัวยืนยันว่าหมายเลข 10 ยังคงเป็นหมายเลขที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังเหมือนเดิมหรือไม่ในเกมฟุตบอล โดยเฉพาะกับฟุตบอลโลก เราจะได้รู้กันครับ...

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ กังวลเงินทุนด้านเอไอกดดันหุ้นเทคโนโลยี