ฮือฮา!ผสมเทียมคลอดลูกแฝด5
อุดรธานี-โรงพยาบาลอกรุงเทพอุดรผสมเทียมคลอดลูกแฝด5ครั้งแรกเผยพ่อแม่เป็นนักธุรกิจชาวลาว
อุดรธานี-โรงพยาบาลอกรุงเทพอุดรผสมเทียมคลอดลูกแฝด5ครั้งแรกเผยพ่อแม่เป็นนักธุรกิจชาวลาว
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.เวลา 15.45 น.พล.ท.นพ.ธวัชชัย ศศิประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพอุดร พ.อ.นพ.อภิรัตน์ ทรัพย์ทองคำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล และ ผศ.นพ.พิชัย โชตินพรัตนภัทร สุติแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญการมีบุตรยาก โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร แถลงผลความสำเร็จ "การผสมเทียม" แม่ที่มีบุตรยาก และได้บุตรแฝด 5 ครั้งแรกของโรงพยาบาล และเป็นครั้งแรกของ จ.อุดรธานี เด็กทั้งหมดยังอยู่ในตู้อบนาน 48 ชม.
พล.ท.นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีการเจริญพันธ์ ในเรื่องการมีบุตรยาก ทำให้อัตราการตั้งครรภ์แฝดสูงขึ้น จากสถิติทั่วไปในการตั้งครรภ์แฝด 5 ตามธรรมชาติ มีอัตราการพบที่ 1 ต่อ 48 ล้าน และมีอัตราคลอดก่อนกำหนดสูงถึง 91 เปอร์เซนต์ รพ.กรุงเทพอุดร ได้ประสบความสำเร็จทำให้ผู้ตั้งครรภ์ ตลอดจนการผ่าตัดคลอดแฝด 5 รายนี้ การผ่าตัดใช้เวลา 40 นาที
"พ่อแม่ของเด็กเป็นนักธุรกิจ ชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อายุ 37 และ 33 ปี เคยมีบุตรคนแรกมาแล้ว 1 คนเป็นหญิง ตลอดเวลากว่า 7 ปีพยายามมีบุตรอีก จนได้บุตรครั้งนี้เป็นแฝด 5 เป็นชาย 2 หญิง 3 คนแรกเพศชาย น้ำหนัก 1,810 กรัม เกิดเวลา 14.37 น. , คนที่สองเพศหญิง น้ำหนัก 1,820 กรัม เกิดเวลา 14.38 น. , คนที่สามเพศชาย น้ำหนัก 1,620 กรัม เกิดเวลา 14.39 น. , คนที่สี่เพศหญิง น้ำหนัก 1,650 กรัม เกิดเวลา 14.40 น. และคนที่ห้าเพศหญิง น้ำหนัก 1,140 กรัม เกิดเวลา 14.41 น." พล.ท.นพ.ธวัชชัย กล่าว
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพอุดร กล่าวอีกว่า ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ตั้งแต่ ผศ.นพ.พิชัย,ทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร , ทีมแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลค่ายประจักษ์ศิลปาคม , ทีมแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลกรุงเทพ และศูนย์ซูพีเรีย เออาร์ที.อุดรธานี หรือศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก หลังการผ่าตัดคลอดแฝด 5 มารดาและเด็กปลอดภัย อยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ พยาบาลอย่างใกล้ชิด มารดาและทารก 4 คน จะออกจาก รพ.ได้ภายใน 1 สัปดาห์ มีเพียงทารกที่น้ำหนักน้อยอีก 1 คน จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อีก 2-3 สัปดาห์
ผศ.นพ.พิชัย กล่าวว่า การผสมเทียมสำเร็จได้ในครั้งแรก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก คือยาฉีดกระตุ้นไข่ตกครั้งละ 20,000-25,000 บาท ค่าดูและครรภ์เดือนละ 3,000-4,000 บาท ส่วนค่าคลอดยังไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งพ่อแม่เด็กรับได้ ขณะที่บางรายอาจจะต้องทำหลายครั้ง หากทำวิธีผสมเทียมไม่เป็นผล ก็จะทำทำด้วยวิธี "กิ๊ฟท์" คือเอาไข่ และสเปิร์ม มาผสมภายนอก แล้วเอาไปฝากไว้ในรังไข่ และวิธี "หลอดแก้ว" ซึ่งก็จะซับซ้อนและค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ซึ่งที่โรงพยาบาลมีผู้มีบุตรยากมารับคำปรึกษาปีละ 200-300 ราย


