คณะศิษย์หลวงตาร้องถูกยึดเครื่องส่งวิทยุเสียงธรรม

คณะศิษย์หลวงตามหาบัวออกแถลงการณ์เรียกร้อง คสช. ตรวจสอบลงโทษ หลังมีเจ้าหน้าที่บุกรุกพร้อมยึดเครื่องส่งสถานีวิทยุเสียงธรรม

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ศาสตราจารย์ ดร.รัตนา ศิริพานิช ได้ออกแถลงการณ์ในนาม คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ฉบับที่ 1/2557 เรื่อง คณะบุคคลแต่งกายคล้ายทหาร-ตำรวจร่วมกระทำการเป็น “มหาโจรปล้นพระพุทธศาสนา” มรดกธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน โดยมีเนื้อหาสรุปว่า

ด้วยปรากฏว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2557 มีคณะบุคคลในเครื่องแบบคล้ายทหาร 4-5 คน คล้ายตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง มีอาวุธสงครามครบมือ ได้เข้ามาบุกรุกสถานีวิทยุ มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าสวนปาล์มมโนธรรม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร แล้วกระทำการปล้นเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงพร้อมอุปกรณ์ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “ทรัพย์ของสงฆ์” ที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ครั้งดำรงขันธ์อยู่ องค์หลวงตาฯ มีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะมอบทรัพย์ดังกล่าวให้ตกเป็นของสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเพื่อกุลบุตรสุดท้ายภายหลังจะได้ใช้ "ทรัพย์ของสงฆ์" ดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการเผยแผ่ธรรมะเป็นธรรมทานพร้อมกับการรักษาสถาบันหลักของชาติให้แน่นหนามั่นคง บังเกิดผลประโยชน์สาธารณะแก่ประเทศชาติและประชาชนนานัปการเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่ปวงมหาชนทั้งในและต่างประเทศ

ก่อนกระทำการปล้นทรัพย์ของสงฆ์ดังกล่าว คณะบุคคลซึ่งมีอาวุธสงครามครบมือกลุ่มนี้ยังแอบอ้างเอาคำสั่งของ คสช. มาขมขู่และบุกรุกเข้ามาในวัดในเวลาวิกาลล่วงเลยกว่า 18.00 น. หวังทำให้พระเณรและผู้ดูแลสถานีในวัดให้เกิดความเกรงกลัว ไม่แน่ใจในอำนาจป่าเถื่อนครั้งนี้ คณะบุคคลเหล่านี้ได้อ้างว่า “นี้เป็นคำสั่ง คสช.ให้ยึดเครื่องส่งวิทยุทั่วประเทศ”

ทั้งนี้ จากการเฝ้าติดตามและปฏิบัติตามแถลงการณ์ทุกครั้งของคสช. อย่างเคร่งครัดตลอดมา อีกทั้งตัวแทนมูลนิธิเสียงธรรมฯ ยังเพิ่งเข้าพบเจ้าหน้าที่ทหารในคณะทำงาน คสช. ฝ่ายกองสื่อเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย. เวลา 16.00 น.) ที่สำนักงานเลขานุการกองทัพบก กทม. ข้างสำนักงานสหประชาชาติ ผู้ซึ่งเป็นต้นเรื่องการออกคำสั่ง คสช. ด้านสื่อ ซึ่งทั้งสองกรณีก็ไม่ปรากฏมาก่อนเลยว่า คสช. มีคำสั่งใดๆ ให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปยึดทรัพย์ในสถานีต่างๆ ได้ หากจะมีปรากฏตามข่าวก็เห็นเพียงกรณีจาบจ้วงสถาบันกรณีเดียวเท่านั้น ซึ่งชอบด้วยเหตุผลสอดคล้องกับพระธรรมเทศนาขององหลวงตาฯ ที่ทุ่มเทปกป้องรักษาในหลวงและสถาบันกษัตริย์ตลอดมาด้วยทรงเป็นพ่อหลวงทรงเป็นหัวใจของชาติ ประการสำคัญ สถานีวิทยุแห่งนี้ก็ปฏิบัติตาม คสช. อย่างเคร่งครัด มิได้ออกอากาศตั้งแต่วันที่ คสช. มีคำสั่งเกี่ยวกับสื่อวิทยุ

อนึ่ง สถานีวิทยุแห่งนี้นอกจากจะได้รับรหัสประจำสถานีหมายเลข 075207 จาก กทช.ปฏิบัติหน้าที่ กสช. และจาก กสทช. ซึ่งแสดงว่าได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังอยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ภายใต้พระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี อีกด้วย โดยทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์เครือข่ายสถานีวิทยุเสียงธรรมทุกแห่งทั่วประเทศเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2548 และทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดแพรคลุมป้ายสถานีเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2549 ด้วย

ดังนั้น คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน จึงขอเรียกร้องต่อคสช. ในฐานะที่เป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในขณะนี้ ในประการต่อไปนี้

1. ขอให้ คสช. ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่เข้ากระทำการตรวจค้นคณะบุคคลที่กระทำการอุกฉกรรจ์ดังกล่าว เพื่อนำ “ทรัพย์ของสงฆ์” อันเป็นมรดกธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน กลับคืนสู่สภาพเดิม

2. ขอให้ คสช. ออกคำสั่งลงโทษคณะบุคคลผู้แต่งกายคล้ายทหารและตำรวจดังกล่าวให้สาสมโทษความผิดที่ก่อกรรมหนักเหยียบย่ำพระพุทธศาสนา ก้าวล่วงพระราชปณิธานของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์อย่างร้ายแรง เหยียบย่ำพระราชหฤทัยและพระราชศรัทธาของเจ้าฟ้าหญิงฯ ขอให้ คสช. มีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการเยี่ยงนี้อีกอย่างเด็ดขาด

3. ขอให้ คสช. ดำเนินตามรอยพระยุคลบาทของบูรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ในอดีตและพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันในฐานะที่ทรงเป็นทั้ง “พุทธศาสนูปถัมภก” และ “องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก” โดยขอให้ คสช. คุ้มครองสื่อวิทยุและโทรทัศน์เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและศาสนาที่ราชการรับรองซึ่งไม่มีโฆษณาหารายได้ทางธุรกิจทุกแห่ง ให้สามารถใช้มาตรฐานเทคนิคที่ทัดเทียมและเสมอภาคกับสถานีวิทยุอนาล็อก 314 สถานี ที่ คสช. อนุญาตให้ออกอากาศได้อย่างเสรีในขณะนี้

นอกจากนี้ ขอความกรุณา คสช.เร่งออกคำสั่งให้มีการเร่งรัดเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงทั้งประเภทบริการสาธารณะ บริการชุมชน และธุรกิจ ได้จัดตั้งสถานีวิทยุระบบดิจิตอลเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาทั้งระบบโดยเฉพาะปัญหาคลื่นรบกวนจากสถานีวิทยุกระจายเสียง ห้าม กสทช.สร้างกฎเกณฑ์ที่จะปิดกั้นการจัดตั้งวิทยุดิจิตอล และขอขอบพระคุณ คสช.เป็นอย่างยิ่ง ที่คืนความสุขให้แก่ประชาชน โดยการคืนโทรทัศน์ดาวเทียมให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กสทช.จะไม่หาเล่ห์เพทุบายฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ในการคืนโทรทัศน์ดาวเทียมให้แก่ประชาชน