คสช.สั่งตั้งคณะกก.ตรวจสอบการใช้งบภาครัฐ
คสช.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ให้ปลัดบัญชีทหารบกเป็นประธาน ปลัดคลัง-ผู้ว่าฯสตง.-ผอ.สำนักงบฯเป็นรองประธาน
คสช.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ให้ปลัดบัญชีทหารบกเป็นประธาน ปลัดคลัง-ผู้ว่าฯสตง.-ผอ.สำนักงบฯเป็นรองประธาน
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งที่ 45/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ โดยมีเนื้อหาดังนี้
เพื่อให้การบริหารราขการแผ่นดินและการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเป็นไปด้วยความรอบคอบ มีความโปร่งใส และอยู่ในระเบียบวินัยการเงินและการคลัง คสช. จึงแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งประกอบด้วย
1. ปลัดบัญชีทหารบก เป็นประธาน
2. ปลัดกระทรวงคลัง เป็นรองประธานคนที่ 1
3. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นรองประธานคนที่ 2
4. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นรองประธานคนที่ 3
5. เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ
6. อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ
7. ผอ.สำนักประเมินผล เป็นกรรมการ
8. เจ้่ากรมจเรทหารบก เป็นกรรมการ
9. ผอ.ตรวจสอบภายในทหารบก เป็นกรรมการ
10. ผอ.สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก เป็นกรรมการ
11. ผู้แทนฝ่ายความมั่นคงตามประกาศ คสช.ที่ 22 /2557เป็นกรรมการ
12. ผู้แทนฝ่ายสังคมจิตวิทยา ตามประกาศคสช.ที่22/2557 เป็นกรรมการ
13. ผู้แทนฝ่ายเศรษฐกิจ ตามประกาศคสช.ที่ 22/2557 เป็นกรรมการ
14. ผู้แทนฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตามประกาศคสช.ที่22/2557 เป็นกรรมการ
15. ผู้แทนฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นกรรมการ
16. ผู้แทนคสช. เป็นเลขานุการ
17. ผู้แทนคสช. เป็นผู้ช่วยเลขานุการคนที่หนึ่ง
18. ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นผู้ช่วยเลขานุการคนที่สอง
ทั้งนี้ คตร. มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
1. ติดตามตวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เป็นไปด้วยด้วยความโปร่งใสและถูกต้องภายใต้กรอบงบประมาณของรัฐควบคู่กับการติดตามตารวจสอบปกติของส่วนราชการ
2. รายงานผลการดำเนินการ และเสนอแนะความเห็นให้หัวหน้าคสช.โดยเร็วเพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
3. เสนอแนะเพื่อให้มีการดำเนินการในลักษณะที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบแบบแผนของราชการและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง
4. เข้าไปในสถานที่ของส่วนราชการ รับวิสาหกิจหน่วยงานอื่นของรัฐหรือสถนที่อื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบขอ้เท็จจริงและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
5.เชิญข้าราชการบุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหรือส่งเอกสารให้ตามความเหมาะสม
6. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการใดๆ


