จับแก๊งขนไม้พะยูงซิ่งแหกด่านตำรวจ

ตำรวจทางหลวง ไล่จับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ หลังพยายามขับรถฝ่าด่านตรวจ ยึด 57 ท่อนรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.อานันท์  วิชเศรษฐสมิตร สว.สทล.2กก.4บก.ทล. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พรชัย  แสงศิลา รอง สว.ตำรวจทางหลวงขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจพื้นที่ในความรับผิดชอบจนกระทั่งมาถึงเขต อ.หนองเรือ พบรถยนต์กระบะนิสสัน สีเทา ขับมาในเส้นทางดังกล่าวโดยมีการนำถุงผักวางไว้ในกระบะตอนท้ายโดยมีผ้าใบสีเขียวปิดคลุมอยู่แต่จากการตรวจสอบพบว่ารถมีน้ำหนักที่มากเกินเมื่อเทียบกับจำนวนผักที่มีอยู่จึงให้สัญญาณเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับขัดขืนและขับฝ่าการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอนแก่นจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และรถวิทยุตรวจการณ์ตำรวจทางหลวงในเขตพื้นที่ข้างเคียงรวมกว่า 5 คัน ไล่ติดตามจับกุมจากพื้นที่ อ.หนองเรือจนมาถึง กม.ที่354-355 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งห่างจากจุดตรวจค้นรวมกว่า 100 กม.คนขับเกิดเสียหลักพุ่งชนรถของประชาชนในจุดดังกล่าวประกอบกับด้านหน้ามีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอีกหนึ่งชุดปิดการจราจรดังกล่าวอยู่คนขับรถจึงยอมขับชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้น

จากการตรวจสอบพบไม้พะยูงแปรรูปขนาดความยาวท่อนละ 1 เมตร รวม 57 ท่อนมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่จึงได้ทำการควบคุมตัว นายอำพร  เพ็ญนุ อายุ 39 ปี และนายคำหล้า  อินทิศาล อายุ 45 ปี มาทำการสอบสวน

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม้พะยูงดังกล่าวทั้งหมดรับมาจากนายทุน ซึ่งนัดรับของในเขตพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น โดยไม้ทั้งหมดเน่าจะถูกตัดมาจากเขตอุทยานแห่งชาติในพื้นที่ของ จ.ขอนแก่น เพื่อส่งจำหน่ายให้กับนายทุนต่างชาติ ซึ่งการขนส่งในครั้งนี้รับค่าจ้าง 30,000 บาทให้ทำการขนไปให้กับนายทุนที่ จ.บึงกาฬ โดยจะใช้เส้นทางลัดตัดผ่านระหว่างอำเภอแต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงขอตรวจค้นจึงตัดสินใจขับรถหลบหนี แต่กลับมาถูกเจ้าห้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.ท.อานันท์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาและให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ทั้งยังให้การสาวถึงผู้จ้างวานและนายทุนชาวต่างชาติที่รอรับสินค้าในเขต จ.บึงกาฬ ทำให้ชุดจับกุมเตรียมที่จะเร่งสืบสวนขยายผลต่อไป

อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีไม้แปรรูปและครอบครองไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายก่อนทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยสำราญ อ.เมืองขอนแกน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป