ตำรวจกลับสน.หลังยุบศอ.รส.

"วรพงษ์"ระบุตำรวจกลับที่ตั้งปฏิบัติงานตามปกติ หลังกองทัพใช้กฎอัยการศึก ระบุพร้อมช่วยทหารเมื่อมีการร้องขอ มั่นใจคดีมั่นคง กปปส.ยังคงอยู่

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะอดีตผู้บัญชาการกองกำลังศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยมีคำสั่งให้ยุบศอ.รส.แล้ว จากนี้กำลังตำรวจทั้งหมดจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ตั้งของตนเอง เพื่อดูแลประชาชนตามปกติ

อย่างไรก็ตาม การจัดกำลังทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทหาร หากมีความจำเป็นที่ทหารต้องสั่งการ หรือร้องขอมาฝ่ายตำรวจก็พร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนด่านความมั่นคง หากเป็นด่านป้องกันอาชญากรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติของตำรวจนครบาลก็สามารถทำได้ตามปกติ ส่วนตำรวจที่มาจากต่างจังหวัดให้กลับไปที่ตั้งของตัวเอง

ทั้งนี้ ในส่วนโครงสร้างใหม่ของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ตำรวจจะเป็นส่วนหนึ่งของกอ.รส. ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผอ.กอ.รส.จะมอบหมายภารกิจให้ ซึ่งภายใต้กฎอัยการศึกตำรวจถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ส่วนทหารเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกหน่วยงาน

เมื่อถามว่า การประกาศกฎอัยการศึกจะส่งผลต่อคดีของแกนนำ กปปส.หรือไม่ พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าวว่า ในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเดินหน้าต่อไป หมายจับต่างๆจะเดินไปเรื่อยๆ นอกจากจะมีข้อกฎหมายอื่นๆมาเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วรพงษ์ได้ มีวิทยุด่วน ที่0001(ศปก.ตร.).31/184 ลงวันที่20 พ.ค.ให้ตำรวจควบคุมฝูงชน55กองร้อย จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1- 7และบช.ตชด.ที่มาสนับสนุนศอ.รส.ในภารกิจรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญในพื้นที่รับผิดชอบกลับต้นสังกัด ในวันที่20พ.ค.เวลา11.00น.เพื่อฟื้นฟูกำลัง ณ ที่ตั้งของหน่วย หลังศอ.รส.ยุติลง

โดยกำชับให้ผู้ควบคุมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน เคลื่อนกำลังกลับ โดยตรวจสอบความพร้อมของกำลังพล ยานพาหนะ และเครื่องมืออุปกรณ์ที่ปฏิบัติหน้าที่ หากเกิดความเสียหายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้ดำเนินการจำหน่ายหรือซ่อมแซมตามขั้นตอนระเบียบที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการระดมทำความสะอาดตรวจสอบอุปกรณ์และจัดระเบียบสถานที่พัก โดยให้ทำความสะอาดที่พักของแต่ละหน่วยให้เกิดความเรียบร้อยพร้อมส่งมอบให้หน่วยงานเจ้าของสถานที่ต่อไป ในส่วนการเคลื่อนย้ายกำลังพลให้คำนึงความปลอดภัยระหว่างเดินทางประสานตำรวจทางหลวงในการอำนวยความสะดวกจราจร