บทสัมภาษณ์สุดท้าย ‘เสธ.แดง’ ไขปริศนา ‘M79-ชายชุดดำ’

โดย...ไพบูลย์ กระจ่างวุฒิชัย

หลังจากที่ทีมแพทย์ของวชิรพยาบาลได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วในการต่อลมหายใจของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แต่สุดท้ายด้วยพิษของบาดแผลจากการลอบสังหารก็ได้ทำให้เสธ.แดงเสียชีวิตและจากไปอย่างไม่มีวันกลับท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวสวัสดิผลเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ทีมงานโพสต์ทูเดย์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษเสธ.แดงเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ก่อนหน้าที่นายทหารผู้นี้จะถูกลอบสังหารประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการนำมาเผยแพร่ไปแล้วถึง 2 ตอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาถึงบทสัมภาษณ์ของเสธ.แดงที่มีต่อโพสต์ทูเดย์ที่กำลังจะไปอ่านในตอนนี้ ถือว่าเป็นตอนสุดท้ายและน่าจะเป็นบทสัมภาษณ์สุดท้ายของนายทหารที่ขึ้นว่าเป็นนักรบทั้งชีวิตคนนี้

โดยเนื้อหาหลักอยู่ที่การตอบข้อสงสัยของเสธ.แดงเกี่ยวกับข้อครหาว่าเป็นผู้นำในการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็น ‘M79’ หรือ ‘ชายชุดดำ’ ซึ่งเข้าไปมีส่วนในการสร้างสถานการณ์ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยเฉพาะเหตุการณ์ขอพื้นที่คืนเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก

พล.ต.ขัตติยะ ยืนยันว่า เหตุการณ์ 10 เม.ย.พี่แดงนอนอยู่ดูโทรทัศน์ไม่รู้เลยว่ารบกัน ไม่ได้อยู่รอบๆหรือบริเวณใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ พี่แดงอยู่ไกลมาก มันเป็นดวงลูกระเบิดลงไปเหมือนผีจับยัด และไม่ใช่ทหารฆ่าทหารพูดไปเรื่อยเปื่อยคนไม่รู้เรื่องไม่มี ทหารแตงโมพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีงานนั้นเนื้อๆ กองกำลังไม่ทราบเข้ามาสนับสนุนความเป็นธรรม

“เราไม่รู้ดิ ไม่รู้จัก เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายไง นักรบโรนิน นินจาอะไรไปเรื่อยเปื่อย เราไม่รู้จัก เสธ.แดงจะไปบอกเหรอติดคุก 300 ปีเลยมั้ง เราไม่รู้จักไม่รู้เรื่อง มันบังเอิญกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาช่วยโดยบังเอิญหลังจากที่ สไนปเปอร์และM16ลงแล้ว กลางวันไม่มาช่วยมาช่วยตอนกลางคืน” คำยืนยันของเสธ.แดง

ส่วนปมปัญหาเรื่องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับใช้เครื่องยิงลูกระเบิด M79 เสธ.แดง ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่คนทั่วไปก็จะคิดว่าพี่ไปส่วนเกี่ยวข้อง แต่จริงๆไม่ใช่อย่างนั้น พี่แดงเองไม่มีปืนสักกระบอก ถือแต่ไม้ท่อนเดียว มันดูเหมือนน่ากลัว ตอนนี้ทำเหมือนพี่เหมือนสามก๊กตอนตั๋งโต๊ะเข้าเมืองพอเข้าเมืองหลวงประชาชนก็จะบอกว่าฉิบหายแล้วตั๋งโต๊ะเมืองเมืองแตกแน่ ซึ่งจริงๆไม่ได้เป็นอย่างนั้น                 

“มือเปล่าจริงๆ คนถืออาวุธคนคือBlack shirt พวกเสื้อดำนักรบชุดดำยิงนัดเดียวตามที่มีการเผยแพร่คลิป มีการเห็นหน้าด้วยต้องไปจับมาให้ได้ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่คิดว่าเป็นของพี่แดงก็ไม่รู้อยู่ไหนมันน่ากลัว พี่เดินคนเดียวมีลูกน้องเดินตามสองคนสามคน พี่ก็ยิ้มไม่เคยโมโห ไม่เคยโกรธใคร” พล.ต.ขัตติยะ กล่าวแบบอารมณ์ดี

เสธ.แดงบอกอีกว่า เหตุการณ์ที่อนุสรณ์สถานในวันที่ 28 เม.ย.ไม่มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายน่ะไอ้ที่ช่างภาพอัลจาซีราจับได้เป็นตัวเดิมคราวนี้มันใช้ปืนพกเที่ยวก่อนใช้อาก้าปนอยู่นี้วิ่งไปวิ่งมาให้คนถ่ายรูปตัวเดียวกับวันที่ 10 เม.ย. คลิบมันชัดดีน่ะ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่สีลมเมื่อวันที่ 22 เม.ย.มันเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน่วยเดียวก็ได้ ไม่เคยมีใครจับมันได้เลย ไม่เคยมีใครเห็นอาวุธมันเลย ทั้งหมดพี่แดงไม่รู้เหมือนกันไม่เคยเกี่ยวข้อง

เมื่อทีมข่าวโพสต์ทูเดย์ให้เสธ.แดงช่วยวิเคราะห์ว่าจะมีเหตุการณ์ความรุนแรงอีกหรือไม่ เสธ.แดงรีบออกตัวปฎิเสธว่า “ไม่รู้สิศาลมีคำสั่งก่อนให้ประกันตัวว่าห้ามเสธ.แดงพูดว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญกับสถานที่หรีอบุคคลเลยไม่พูดตอนนี้ไม่งั้นได้อยู่ในคุก”

ทั้งนี้ ทิ้งท้ายบทสัมภาษณ์พล.ต.ขัตติยะ ได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ต่อตัวเขาและ ‘เมธี อมรวุฒิกุล’ ดารานักแสดงเสื้อแดงที่ถูกจับกุมได้สารภาพถึงการมีอยู่ของกองกำลังติดอาวุธผสมกลมกลืนกับคนเสื้อแดง โดยเสธ.แดงระบุว่า มันแต่งเรื่องที่มันพูดมันไม่ตรงกันหมดไอ้เมธีมันอยู่กับพี่แดงนอนอยู่ในเต๊นท์นอนกับพื้นแต่มันบอกว่าไปนอนบนรถ 6 ล้อ มันแต่งเรื่อง

 “มันได้ปืนทราโวไป มันเดาเอาว่าเสธ.แดงคงเอาไปมั้ง เรื่อยเปื่อย มันอยู่กับพี่มันชอบพี่ มันชอบตามแบบว่าเด็กบู๊อยากเห็นผู้ใหญ่บู๊ เท่าที่รู้น่ะปืนเขาคงคืนให้พล.ต.ศรชัย มนตริวัต นำไปคืนแล้ว ไม่รู้เหมือนกันพี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์” เสธ.แดงกล่าว

ปิดฉากชีวิตพล.ต.ขัตติยะ นักรบเต็มขั้นอย่างสมบูรณ์