posttoday

ในโลกของหมี 'Bears'

27 เมษายน 2557

ในโลกใบใหญ่ของผู้สร้างสรรค์ความบันเทิงระดับโลกอย่าง ดิสนีย์ มีอีกหนึ่งสาย

ในโลกใบใหญ่ของผู้สร้างสรรค์ความบันเทิงระดับโลกอย่าง ดิสนีย์ มีอีกหนึ่งสายการผลิตซึ่งถูกเรียกว่า “ดิสนีย์เนเจอร์” (Disneynature) ที่เพิ่งจะส่งผลงานล่าสุดออกสู่สายตาคนดูหลังวันเอิร์ธเดย์ (22 เม.ย.) ที่ผ่านมา นั่นก็คือ หนังธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่าเรื่อง Bears

กำกับการแสดงโดย อแลสแตร์ ฟอเธอร์กิลล์ นักสร้างหนังธรรมชาติชาวอังกฤษที่มีผลงานออกฉายทางบีบีซีมาแล้วมากมาย ร่วมกำกับโดย คีธ สกอลีย์ ทั้งยังมีดาราดัง จอห์น ซี ไรล์ลี่ มาบรรยาย โดยรายได้จากการฉายหนังเรื่องนี้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิอุทยานแห่งชาติ

Bears นำเสนอภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิดของสัตว์ป่าซึ่งอาศัยในธรรมชาติ กับการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตราย เพื่อชัยชนะและการอยู่รอดของครอบครัว

หนังมีความยาว 77 นาที นำเสนอเรื่องราวเกือบ 1 ปีของชีวิตแม่หมีสีน้ำตาลชื่อ สกาย กับลูกทั้งสองคือ สเกาท์และแอมเบอร์ พวกมันเป็นหมีที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติแคทไม รัฐอะแลสกา ดินแดนที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ทุ่งหญ้าชายฝั่งทะเล และลำธาร ในช่วงฤดูร้อนหมีสีน้ำตาลจำนวนหลายร้อยตัวจะเดินทางลงจากภูเขาเพื่อไปยังชายฝั่งเพื่อจับปลาแซลมอนกินเป็นอาหาร สะสมไขมันไว้ ก่อนจะกลับขึ้นไปจำศีลในถ้ำบนภูเขาตลอดฤดูหนาวอันยาวนาน

การเดินทางของครอบครัวหมีเพื่อลงจากภูเขาใช้เวลานาน 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้นพวกมันต้องหยุดพักเพื่อหลบหิมะถล่ม ระหว่างรอคอยให้ปลาแซลมอนว่ายน้ำจากท้องทะเลเพื่อมาวางไข่ในลำธาร การรวมตัวกันของสัตว์โลกชนิดนี้ไม่ใช่การพบปะของครอบครัวที่เป็นมิตร ความขัดแย้งมีอยู่ทั่วไป ลูกเล็กเด็กแดงที่เกิดใหม่ต่างตกอยู่ในอันตราย แม่ของพวกมันรวมทั้งตัวมันเองต้องดูแลอย่างดีก่อนที่หมีน้อยจะกลายเป็นเหยื่อของตัวผู้ที่มีอายุมากกว่า

ในโลกของหมี 'Bears'

 

เจ้าหมีน้อย สเกาท์ ที่แสนน่ารักและตลกเป็นดาวเด่นของเรื่อง มันทำให้เกิดเรื่องผจญภัย เรียนรู้ที่จะอยู่รอด ในขณะที่ แอมเบอร์ มักจะเกาะติดอยู่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ หนังธรรมชาติของ ดิสนีย์ ต่างไปจากหนังสารคดีทั่วไป กรุ่นด้วยกลิ่นอายดราม่า เมื่อภาพชีวิตสัตว์ป่าเหล่านั้นสื่ออารมณ์หลากหลายออกมาถึงคนดู ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ลูกหมีตัวที่กำลังมองหาต้นแบบจากหมีเพศผู้ตัวอื่นๆ การต่อสู้แย่งชิงอาหารจากหมีตัวอื่นๆ ทุกเมื่อที่ต้องการของเจ้าตัวร้ายที่ชื่อ แมกนัส โดยมี ชินุก เป็นคู่แข่ง ในหนังยังมีตัวละครฝ่ายดีที่ช่วยสกายหาอาหาร รวมทั้งหมาป่าที่มักจะถูกตัดสินว่าเป็นโจร

ทีมสร้างใช้เวลา 2 ปีในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้อย่างยากลำบาก พวกเขาใช้คนน้อยที่สุดแค่เพียง 3 คน ที่เหลือรออยู่รอบนอก ทุกคนระมัดระวังไม่ให้การทำงานของพวกเขาส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมหรือทำร้ายสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแคทไม เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์แบบหมีๆ ให้ได้สัมผัสบนจอ

จอห์น ซี ไรล์ลีย์ ดาราฮอลลีวู้ดผู้โด่งดังจากหนัง อาทิ Anchorman 2, Chicago ฯลฯ รับหน้าที่บรรยาย เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ในช่วงสุดท้ายของการผลิต ผู้สร้างจูงใจเขาให้เข้าร่วมโดยชักชวนเขา ดาราดังอย่าง เมอรีล สตรีป, มอร์แกน ฟรีแมน และเจมส์ เอิร์ล โจนส์ ต่างก็เคยทำแบบนี้มาก่อน “ผมอยากถูกนับรวมอยู่ในคนกลุ่มนี้แหละ”

สำหรับเขาหนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับหนังครอบครัวเรื่องหนึ่ง งานชิ้นนี้ทำให้ จอห์น ได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับหมีที่ไม่เคยรู้มาก่อน “เป็นหมีนี่มันยากนะ” คนทั่วๆ ไปมักจะคิดว่า หมีก็แค่ออกล่าหาน้ำผึ้ง กิน แล้วก็นอน “แต่ถ้าคุณได้มาดูหนังเรื่องนี้คุณจะรู้ว่า ไม่ใช่ พวกมันต้องในชีวิตอยู่ในธรรมชาติที่มีความรุนแรง โหดร้าย มีความท้าทายในทุกฤดูกาลเพื่อที่จะมีกินอย่างเพียงพอ”

หนังเรื่องนี้จะทำให้คนดูได้เข้าใจวิถีชีวิตของหมีรวมทั้งสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ มากขึ้น อย่างที่ คีธ สกอลีย์ บอก “ผมหวังให้ หนังเรื่องนี้ได้บอกกับคนดูว่า ‘ดูสิ หมีมันใช้ชีวิตยังไง’ แม้หมีบางตัวจะแสดงพฤติกรรมที่มนุษย์เรียกว่า ร้ายกาจ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องทางชีววิทยาหรือว่าอะไรก็ตาม แต่ผมอยากให้คนดูเข้าใจและยอมรับนับถือวิถีของพวกมัน”

เมื่อรู้จัก เข้าใจ และยอมรับ เชื่อว่า ผู้คนจะปกป้องดูแลหมีรวมทั้งสัตว์ป่าทั้งหลายอย่างดีกว่าเดิม

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1