posttoday

ดาวอังคารใกล้โลก

13 เมษายน 2557

ต้นสัปดาห์นี้ ดาวอังคารจะผ่านใกล้โลกด้วยระยะห่าง 92 ล้านกิโลเมตร

โดย...วรเชษฐ์ บุญปลอด

ต้นสัปดาห์นี้ ดาวอังคารจะผ่านใกล้โลกด้วยระยะห่าง 92 ล้านกิโลเมตร ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดเฉลี่ยทุก ๆ 2 ปีเศษ แต่ด้วยวงโคจรที่มีความรีค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่น จึงมีระยะห่างและความสว่างต่างกันในการเข้าใกล้แต่ละครั้ง

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 4 ต่อจากดาวพุธ ดาวศุกร์ และโลก เส้นผ่านศูนย์กลางของดาวอังคารคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของโลก มวลที่น้อยกว่าโลก หากเราไปยืนอยู่บนดาวอังคาร จะมีน้ำหนักเหลือประมาณ 1 ใน 3 ของน้ำหนักที่วัดได้บนโลก

ดาวอังคารโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบด้วยเวลาเท่ากับ 687 วันของโลก หมุนรอบตัวเองด้วยคาบนานกว่าโลกเล็กน้อย หนึ่งวันบนดาวอังคารยาวนาน 24 ชั่วโมง 40 นาที (เทียบกับดวงอาทิตย์)

แกนหมุนของดาวอังคารเอียงกับระนาบวงโคจรเป็นมุม 25 องศา แต่ละซีกดาวอังคารจึงมีฤดูกาลคล้ายโลก แบ่งเป็น 4 ฤดู เรียกชื่อเหมือนกัน คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่บนดาวอังคารไม่มีต้นไม้ อุณหภูมิเฉลี่ยก็ต่ำถึง –63 องศาเซลเซียส คาร์บอนไดออกไซด์เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ในบรรยากาศ มีมากถึงร้อยละ 95

ดาวอังคารใกล้โลก

 

ช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกจะเป็นช่วงที่ดาวอังคารปรากฏอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก หรืออีกนัยหนึ่งคือโลกเคลื่อนมาอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดาวอังคาร นักดาราศาสตร์สนใจช่วงเวลานี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่ดาวอังคารจะมีขนาดใหญ่เมื่อดูด้วยกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายสูง บรรยากาศที่เบาบางของดาวอังคารช่วยให้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของน้ำแข็งรอบขั้วดาว พายุฝุ่น และรอยบนพื้นผิวอันเกิดจากภูมิประเทศที่แตกต่างกัน

วงโคจรของดาวอังคารเป็นวงรีรอบดวงอาทิตย์ ทำให้แต่ละครั้งที่ดาวอังคารใกล้โลก ดาวอังคารจะอยู่ห่างโลกไม่เท่ากัน และสว่างไม่เท่ากัน ขณะใกล้โลกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2546 ดาวอังคารอยู่ห่างโลก 55.8 ล้านกิโลเมตร เกือบจะเป็นช่วงที่ใกล้โลกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (เมื่อคำนวณอย่างละเอียด พบว่าปีนั้นดาวอังคารอยู่ใกล้โลกที่สุดในรอบเกือบ 60,000 ปี) ทำให้ดาวอังคารสุกสว่างมาก สว่างกว่าดาวพฤหัสบดีเสียอีก

ปีนี้ดาวอังคารจะใกล้โลกที่สุดในเวลาเกือบ 2 ทุ่ม ของวันที่ 14 เมษายน 2557 ขณะนั้นอยู่ห่างโลก 92.4 ล้านกิโลเมตร ไกลกว่าเมื่อปี 2546 อยู่มากพอสมควร จึงสว่างน้อยกว่าดาวพฤหัสบดี แต่ก็ยังสว่างใกล้เคียงดาวซิริอัสหรือดาวโจรในกลุ่มดาวหมาใหญ่ ซึ่งนับเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าเวลากลางคืน

ดาวอังคารมีดวงจันทร์บริวาร 2 ดวง ได้แก่ โฟบอสและดีมอส ดาวบริวารทั้งสองมีขนาดเล็ก สว่างน้อย จึงสังเกตได้ยากด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก แม้ในช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด ก็ยังยากที่จะสังเกตการณ์ได้ เนื่องจากแสงจากดาวอังคารจะสว่างจ้ารบกวน

หลังจากช่วงที่ดาวอังคารใกล้โลกที่สุดและสว่างที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว ดาวอังคารจะปรากฏบนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำเช่นนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน โดยอยู่ห่างโลกมากขึ้น ขนาดที่เห็นในกล้องโทรทรรศน์จะค่อย ๆ เล็กลง ความสว่างก็ลดลง

ปลายเดือนสิงหาคมจะเห็นดาวอังคารอยู่ใกล้ดาวเสาร์ เป็นช่วงที่ดาวเคราะห์ทั้งสองมีความสว่างใกล้เคียงกัน จากนั้นปลายเดือนกันยายน ดาวอังคารจะผ่านใกล้ดาวแอนทาเรสหรือดาวปาริชาตในกลุ่มดาวแมงป่อง ดาวทั้งสองดวงนี้มีสีส้มคล้ายกัน คาดว่าอาจเป็นที่มาของชื่อดาวแอนทาเรสที่แปลว่าคู่แข่งหรือคู่ปรับดาวอังคาร (Antares = anti + Ares)

ปลายเดือนกันยายน 2557 ยานอวกาศ 2 ลำ ได้แก่ ยานมัม (MOM ย่อมาจาก Mars Orbiter Mission) ของอินเดีย และยานเมเวน (MAVEN ย่อมาจาก Mars Atmosphere and Volatile EvolutioN) ของสหรัฐอเมริกา ที่ถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 จะเดินทางถึงดาวอังคาร

เดือนตุลาคม 2557 ถึงแม้ว่าดาวอังคารจะห่างจากโลกมากแล้ว แต่เชื่อว่าทั่วโลกจะกลับมาสนใจดาวอังคารมากเป็นพิเศษอีกครั้ง เมื่อดาวหางไซดิงสปริง (C/2013 A1 Siding Spring) โคจรเฉียดใกล้ดาวอังคาร ดาวหางดวงนี้ไม่ชนดาวอังคาร แต่ผ่านดาวอังคารไปด้วยระยะห่างประมาณ 135,000 กิโลเมตร นักดาราศาสตร์คาดว่าสะเก็ดดาวที่หลุดจากดาวหางจะทำให้เกิดฝนดาวตกบนดาวอังคาร

ยานอวกาศทั้งที่อยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร และที่โคจรรอบดาวอังคาร มีโอกาสสังเกตดาวหางไซดิงสปริง และมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่อาจถูกสะเก็ดดาวขนาดเล็กพุ่งชน จึงคาดว่าน่าจะมีมาตรการบางอย่างมาช่วยลดความเสี่ยง เช่น ปรับแผงเซลล์สุริยะของยานให้อยู่ในระนาบเดียวกับทิศทางการเคลื่อนที่ของสะเก็ดดาว

หลังจากปีนี้ ดาวอังคารจะใกล้โลกที่สุดครั้งถัดไปในวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ห่างโลก 75.3 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะใกล้โลกอีกครั้งในวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ห่างโลก 57.6 ล้านกิโลเมตร ปีนั้นถือได้ว่าเป็นช่วงที่สังเกตดาวอังคารได้ดีที่สุดในรอบ 15 ปี เกือบเทียบได้กับการเข้าใกล้โลกเมื่อปี 2546

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (13–20 เม.ย.)

ดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าเวลาหัวค่ำ ดาวพฤหัสบดีอยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ มองเห็นอยู่สูงบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตก ส่วนดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาวด้านทิศตะวันออก แม้ว่าดาวอังคารจะสว่างน้อยกว่าดาวพฤหัสบดี แต่ก็เห็นได้ชัด เนื่องจากอยู่ในช่วงที่ใกล้โลกและสว่างที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551

ดาวเสาร์อยู่ในกลุ่มดาวคันชั่ง เริ่มเห็นอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกราว 2 ทุ่มครึ่ง หรือหลังจากนั้นไม่นาน ดาวพฤหัสบดีตกลับขอบฟ้าในเวลาเที่ยงคืน จากนั้นราวตี 4 ดาวศุกร์จะขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก

เมื่อฟ้าสาง ดาวอังคารคล้อยต่ำลงจนเกือบตกลับขอบฟ้าทิศตะวันตก ดาวเสาร์อยู่สูงขึ้นมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนดาวศุกร์เคลื่อนสูงขึ้นจนอยู่ที่มุมเงย 30 องศา

ต้นสัปดาห์เป็นปลายข้างขึ้น คืนวันที่ 14 เมษายน ดวงจันทร์อยู่ใกล้ดาวอังคารที่ระยะ 4 องศา จากนั้นดวงจันทร์สว่างเต็มดวงในวันที่ 15 เมษายน เกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ไม่เห็นในประเทศไทย เช้ามืดวันที่ 17 เมษายน ดวงจันทร์อยู่ใกล้ดาวเสาร์ที่ระยะ 6 องศา ดวงจันทร์จะมีส่วนสว่างลดลงจนเหลือครึ่งดวงในต้นสัปดาห์ถัดไป

ข่าวล่าสุด

"ธรรมนัส” เผย 25 ธ.ค.นี้ กล้าธรรมเปิดตัวสส.ทั้งเขต-ปาร์ตี้ลิสต์