เป็ดง่อย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจตัวหนึ่งซึ่งค่อนข้างสำคัญไม่น้อยทีเดียว ก็คือตัวเลขดัชนีการว่างงานของประเทศ ซึ่งปรากฏว่าดัชนีการว่างงานของสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับเดิมที่ 6.7% ในเดือน มี.ค.ครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจตัวหนึ่งซึ่งค่อนข้างสำคัญไม่น้อยทีเดียว ก็คือตัวเลขดัชนีการว่างงานของประเทศ ซึ่งปรากฏว่าดัชนีการว่างงานของสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับเดิมที่ 6.7% ในเดือน มี.ค.ครับ
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าผิดความคาดหมายเหลือเกิน หลังจากที่นักวิเคราะห์ต่างคาดว่าตัวเลขนี้จะลดต่ำมากไปกว่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีการจ้างงานเพิ่มเป็นระยะๆ อย่างล่าสุดในเดือน มี.ค. ก็มีการจ้างงานเพิ่มที่ 1.92 แสนคน
แต่เพราะเหตุใดดัชนีการว่างงานโดยรวมของประเทศกลับยังไม่ลดลงนั่นเป็นเพราะว่า
ประการแรก ปริมาณคนว่างงานสหรัฐในจำนวน 105 ล้านคนนี้ มีมากถึง 36% ในจำนวนนี้ที่ว่างงานมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้ว นอกเหนือจากนั้นในจำนวนคนที่ได้งานราว 7.4 ล้านคน นั้นก็เป็นงานชั่วคราวไปเสีย ไม่ใช่งานประจำที่มีสถานะมั่นคงมากกว่า
น่าจะเป็นสิ่งที่พอบ่งชี้ได้ว่า ภาคเอกชนสหรัฐเองนั้นก็ยังอยู่ในสภาวะที่ยังไม่มั่นใจต่อการขยายกิจการได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ฟื้นความเชื่อมั่นได้อย่างเต็มพิกัดหรือยังไม่ไว้ใจนั่นเอง
ที่ผ่านมาตลอด 23 ปีนั้น เอกชนสหรัฐเลือกที่จะสร้างผลกำไรด้วยการตัดลดค่าใช้จ่ายลง ทำให้การจ้างงานเพิ่มนั้นอยู่ในอัตราที่เชื่องช้าอย่างที่สุด และแม้ว่าจะเริ่มจ้างงานมากขึ้นในขณะนี้ แต่จำนวนไม่น้อยก็เป็นตำแหน่งงานชั่วคราว เพื่อลดต้นทุนนั่นเอง
ประการที่สอง นั้น การจ้างงานส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจะอยู่ในภาคเอกชนมากกว่า ขณะที่การจ้างงานของภาครัฐบาลนั้นค่อนข้างเงียบเชียบ
นั่นเป็นผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐกำลังเจอกับผลกระทบจากภาวะขาดดุลงบประมาณต่อเนื่อง ที่ทำให้ภาครัฐต้องตัดรายการใช้จ่ายลงอย่างมหาศาล ดังนั้นรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้จึงอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจได้โดยตรง (บทบาทการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องกับบทบาทจากธนาคารกลางสหรัฐครับ)
เห็นแล้วคล้ายๆ กับภาครัฐของไทย ที่ในขณะนี้อยู่ในสถานะไม่ต่างจากเป็ดง่อย ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจของชาติได้แต่อย่างใด
หรือทำได้ แต่ไม่ทำก็มิทราบได้จริงๆ


