posttoday

ดาวเคราะห์น้อยก็มีวงแหวน

30 มีนาคม 2557

ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่คนส่วนใหญ่ทราบกันดีว่ามีวงแหวน

ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์ที่คนส่วนใหญ่ทราบกันดีว่ามีวงแหวน นอกจากดาวเสาร์แล้ว ดาวเคราะห์อีกสามดวง ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน ก็มีวงแหวนบางๆ ล้อมรอบ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ นักดาราศาสตร์เพิ่งค้นพบว่าดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ห่างไกลดวงหนึ่งก็มีวงแหวนกับเขาด้วยเหมือนกัน

ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีชื่อว่า คาริโคล (10199 Chariklo) ตั้งตามชื่อของคนครึ่งม้าเพศหญิง (บางเรื่องระบุว่าเป็นนิมฟ์) ในเทพนิยายกรีก นักดาราศาสตร์ค้นพบคาริโคลเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2540 ขณะนั้นมีชื่อชั่วคราว ซึ่งบอกถึงปีและลำดับการค้นพบว่า 1997 ซียู 26 (1997 CU26)

คาริโคลโคจรรอบดวงอาทิตย์อยู่ระหว่างวงโคจรของดาวเสาร์กับดาวยูเรนัส คาบการโคจรยาวนานประมาณ 63 ปี คาดว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 250 กิโลเมตร จัดเป็นวัตถุในกลุ่มเซนทอร์ (Centaur) ซึ่งหมายถึงดาวเคราะห์น้อยที่อยู่เลยวงโคจรของดาวพฤหัสบดีออกไป แต่ไม่เกินวงโคจรของดาวเนปจูน

ดาวเคราะห์น้อยบางดวงในกลุ่มเซนทอร์มีพฤติกรรมแบบดาวหาง จึงมีสถานภาพเป็นได้ทั้งดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง อันเป็นสาเหตุของการตั้งชื่อว่าเซนทอร์ ซึ่งหมายถึงคนครึ่งม้า แบบจำลองสนับสนุนว่าดาวเคราะห์น้อยกลุ่มเซนทอร์อาจเคยโคจรอยู่ไกลเลยวงโคจรของดาวเนปจูนออกไปในบริเวณที่เรียกว่าแถบไคเปอร์ (Kuiper belt) แต่ถูกแรงโน้มถ่วงรบกวนให้เข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้น ดาวเคราะห์น้อยคาริโคลเป็นเซนทอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ค้นพบในปัจจุบัน

สัปดาห์ที่แล้ว นักดาราศาสตร์แถลงว่ากล้องโทรทรรศน์ในหอดูดาวต่างๆ ในทวีปอเมริกาใต้ รวมถึงหอดูดาวลาซียาในชิลี ซึ่งเป็นของหอดูดาวยุโรปในซีกโลกใต้ (European Southern Observatory หรือ ESO) ได้ค้นพบว่าคาริโคลมีวงแหวน

การค้นพบนี้ไม่ได้เกิดจากการสังเกตการณ์โดยตรง แต่มาจากการสังเกตปรากฏการณ์ที่ดาวเคราะห์น้อยคาริโคลเคลื่อนเข้าบังดาวฤกษ์ดวงหนึ่งเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2556 นักดาราศาสตร์ไม่ได้คาดหมายมาก่อนว่าคาริโคลมีวงแหวน จุดประสงค์หลักในการสังเกตดาวเคราะห์น้อยบังดาวฤกษ์ก็เพื่อจะวัดขนาดและรูปร่างของมันเท่านั้น

การสังเกตดาวเคราะห์น้อยบังดาวฤกษ์จะได้ผลดีที่สุดเมื่อสังเกตจากสถานที่หลายแห่งซึ่งอยู่ห่างกันพอสมควร แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่มีโอกาสเห็นปรากฏการณ์ การบังครั้งนั้นเงาของคาริโคลพาดผ่านทวีปอเมริกาใต้ จึงมีการร่วมมือกันสังเกตปรากฏการณ์นี้จากหอดูดาวหลายแห่ง

นักดาราศาสตร์พบว่าแสงของดาวฤกษ์ที่ถูกคาริโคลบังไม่ได้หายไปเพียงครั้งเดียว แต่หายไปทั้งหมด 3 ครั้ง โดยแสงดาวหายไปในเวลาสั้นๆ ในครั้งแรกและครั้งสุดท้าย แสดงว่ามีบางสิ่งบดบังดาวฤกษ์ในช่วงก่อนและหลังการบังหลัก เมื่อนำผลการสังเกตการณ์ทั้งหมดจากต่างสถานที่กันมาเปรียบเทียบและวิเคราะห์ จึงสามารถทราบได้ว่าสิ่งนั้นไม่ควรเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากวงแหวน การสังเกตการณ์ทำนองเดียวกันนี้ทำให้ค้นพบวงแหวนของดาวยูเรนัสเมื่อปี 2520

วงแหวนที่ล้อมรอบคาริโคลไม่ได้มีแค่วงเดียว แต่พบว่ามี 2 วง แต่ละวงกว้าง 7 และ 3 กิโลเมตร แนวศูนย์กลางของวงแหวนอยู่ห่างกัน 14 กิโลเมตร จึงมีช่องว่างระหว่างวงกว้าง 9 กิโลเมตร ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นักดาราศาสตร์ค้นพบระบบวงแหวนรอบดาวเคราะห์น้อย และนับเป็นวัตถุที่ชิ้นที่ 5 ในระบบสุริยะ ที่พบว่ามีวงแหวน

การค้นพบวงแหวนรอบคาริโคลสร้างความประหลาดใจให้กับนักดาราศาสตร์ เนื่องจากที่ผ่านมาต่างคาดหมายกันว่าวัตถุมวลมากเท่านั้นจึงจะมีระบบวงแหวนที่มีเสถียรภาพ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดวงแหวนยังเป็นปริศนา

สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ สันนิษฐานว่าคาริโคลอาจเคยถูกชนจากดาวเคราะห์น้อยดวงอื่น การชนที่ไม่รุนแรงมาก อาจทำให้เศษซากไม่กระเด็นหลุดออกไปนอกระบบ แต่ยังคงล่องลอยอยู่รอบๆ คาริโคลจนกลายเป็นวงแหวน นักดาราศาสตร์เชื่อว่ารอบคาริโคลอาจมีดาวบริวารขนาดเล็กดวงหนึ่งที่คอยรักษาเสถียรภาพของวงแหวน ซึ่งหากมีจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเคยมีการค้นพบดาวบริวารรอบดาวเคราะห์น้อยมาแล้ว

นักดาราศาสตร์คาดว่าคาริโคลคงไม่ใช่ดาวเคราะห์น้อยดวงเดียวที่มีวงแหวน ก่อนหน้านี้เคยมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่ดาวพลูโตก็อาจมีวงแหวน เราจะทราบได้ในอีกไม่นานนี้ เมื่อยานนิวเฮอไรซอนส์เดินทางถึงพลูโตในกลางปีหน้า

ปรากฏการณ์ท้องฟ้า (30 มี.ค.6 เม.ย.)

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดในเวลาหัวค่ำ มองเห็นดาวพฤหัสบดีอยู่กลางท้องฟ้า ใกล้จุดเหนือศีรษะ โดยค่อนไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อยบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ จากนั้นเวลาประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง หรือหลังจากนั้นไม่นาน เริ่มเห็นดาวอังคารอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก

ดาวอังคารอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว ใกล้ดาวรวงข้าวซึ่งเป็นดาวสว่างในกลุ่มดาวนี้ ดาวอังคารใกล้โลกมากขึ้น ทำให้สว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะใกล้ที่สุดและสว่างที่สุดในสัปดาห์หน้า เราสามารถสังเกตดาวพฤหัสบดีได้จนกระทั่งตกลับขอบฟ้าราวตี 1 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอังคารจะอยู่สูงสุดบนท้องฟ้าทางทิศใต้

เวลาประมาณ 4 ทุ่ม เริ่มเห็นดาวเสาร์ขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกในกลุ่มดาวคันชั่ง จากนั้นราวตี 4 ดาวศุกร์จะขึ้นมาอยู่เหนือขอบฟ้าในทิศเดียวกัน ช่วงเช้ามืดยังมีโอกาสเห็นดาวพุธอยู่ใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันออก แต่อาจสังเกตได้ยาก

จันทร์ดับในวันที่ 31 มี.ค. จากนั้นเข้าสู่ข้างขึ้น ดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าในเวลาหัวค่ำของทุกวัน วันที่ 3 เม.ย. จันทร์เสี้ยวอยู่ห่างไปทางซ้ายมือของกระจุกดาวลูกไก่ที่ระยะ 7 องศา วันถัดไปผ่านใกล้ดาวอัลเดบารันในกลุ่มดาววัวที่ระยะ 3 องศา วันที่ 6 เม.ย. ดวงจันทร์อยู่ใกล้ดาวพฤหัสบดีที่ระยะ 7 องศา

สัปดาห์นี้มีหลายวันที่สามารถเห็นสถานีอวกาศนานาชาติผ่านเหนือท้องฟ้า โดยปรากฏเป็นเหมือนดาวสว่าง แต่เคลื่อนที่ได้ วันพุธที่ 2 เม.ย. กรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียงเริ่มเห็นสถานีอวกาศเหนือขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 19.59 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้น เข้าสู่เงามืดของโลกในอีก 2 นาทีถัดมา ขณะอยู่ที่มุมเงย 40 องศา

วันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย. เริ่มเห็นทางทิศใต้ ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 19.10 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางซ้าย ผ่านจุดสูงสุดที่มุมเงย 40 องศา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในเวลา 19.13 น. แล้วเคลื่อนต่ำลง เข้าสู่เงามืดของโลกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 19.16 น. ที่มุมเงย 10 องศา

วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. เริ่มเห็นสถานีอวกาศทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเวลา 19.07 น. จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นไปทางขวา ผ่านจุดสูงสุดที่มุมเงย 40 องศา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลา 19.10 น. แล้วเคลื่อนต่ำลง สิ้นสุดทางทิศเหนือ ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือในเวลา 19.13 น.

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ