posttoday

21มี.ค.ชี้ชะตาเลือกตั้ง ศาลข้องใจการนับคะแนน

20 มีนาคม 2557

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย

โดย...ทีมข่าวการเมือง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้ง สส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยได้เชิญตัวแทนจาก 3 ฝ่าย ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจง

ทั้งนี้ ในระหว่างการพิจารณา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามตัวแทนของรัฐบาลและ กกต. ถึงกระบวนการจัดการการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหา ที่ไม่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้ง และการ ร่วมกันจัดการเลือกตั้งของ กกต.และรัฐบาล ก่อนที่จะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 21 มี.ค. เวลา 11.00 น.

พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ตราขึ้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการ แต่การจัด เลือกตั้งที่ไม่แล้วเสร็จเป็นเพราะถูกขัดขวาง และส่วนตัวคิดว่าหาก กกต.ใช้อำนาจจัดการเลือกตั้งอีกครั้งก็สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และการได้มาซึ่ง สว.เพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่มีผู้สมัครใน 28 เขตเลือกตั้ง

จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : การที่รองนายกฯ ยืนยันว่า กกต.สามารถจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งได้ อยากถามว่าเป็นการอ้างกฎหมาย ตามมาตราไหน?

พงศ์เทพ : เราเทียบเคียงกับกรณีที่มีผู้สมัครรับ เลือกตั้งเพียงคนเดียว และขาดคุณสมบัติหรือกรณีที่มี ผู้สมัครคนเดียวแต่ได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ซึ่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งก็ให้ กกต.รับสมัครใหม่ และจัดการเลือกตั้งใหม่ การใช้กฎหมายต้องตีความให้ใช้ได้ สมมติว่าถ้าในเขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครคนเดียวและเสียชีวิตไปกลายเป็นว่าเราต้องทำลายการเลือกตั้ง ทั่วประเทศอย่างนั้นหรือ

สุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : การที่นับและประกาศผลคะแนนของผู้สมัครอาจถือเป็นมูลเหตุ จูงใจทำให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนที่จะตามมาภายหลัง รู้ว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนนี้ได้กี่คะแนนและมีเหตุจูงใจทำให้ต้องไปเติมคะแนน อยากถามรองนายกฯ ว่า ตรงนี้ ถือเป็นหลักสำคัญหรือไม่?

พงศ์เทพ : เขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่ผู้ตรวจการกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีกรณีที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งอีก 2 คนบอกว่าตัวเองยังไม่ได้ลงคะแนน แต่ถึงแม้ทั้งสองคนจะรู้ว่าในหน่วยเลือกตั้งจะมีการประกาศ ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปแล้วบ้างก็ตาม ถามว่าจะเป็นการทำลายการเลือกตั้งทั้งเขตเลือกตั้งนั้นหรือไม่ ก็คงไม่ใช่ และการจะบอกว่าการลงคะแนนเป็นความลับหรือไม่อยู่ที่ระหว่างการลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้วางเอาไว้เมื่อปี 2549

ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. : การจัดเลือกตั้งตาม พ.ร.ฎ.ของ กกต.ไม่ขัดกับกฎหมาย นอกจากนี้ กกต.เห็นว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะ กกต.ยังไม่ได้ออกประกาศหรือระเบียบที่ ขัดรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้เปิดโอกาสให้ กกต.ได้เข้าชี้แจง

จรัญ : กกต.ได้แยกแยะหรือไม่ว่าการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่หลังจากได้มีการจัดการเลือกตั้งไปแล้วกับการจัดการเลือกตั้งใหม่ในบางเขตที่ยังไม่มีผู้สมัครมีความแตกต่างกันอย่างไร?

วรภัทร วงศ์ปราโมทย์ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงาน กกต. : กกต.สามารถจัดการลงคะแนนใหม่ได้ในกรณีที่มีเหตุที่ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถลงคะแนนได้ เช่น เกิดภัยพิบัติ ส่วนกรณีไม่มีผู้สมัคร สส.นั้น แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 93 จะบัญญัติไว้เป็นหลักการว่าต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ สส.ครบ 500 คน แต่ในทางปฏิบัติแล้วรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่ได้บอกว่า กกต.จะทำอะไรได้บ้าง ดังนั้น เมื่อครบกำหนดวันรับสมัครแล้ว กกต.จึงไม่มีอำนาจขยายวันรับสมัคร

นุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าการเลือกตั้งสามารถเลื่อนออกไปได้ ทำไม กกต.ยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้งตามข้อเรียกร้องของรัฐบาล จนกระทั่งเป็นปัญหามาถึงปัจจุบัน?

ศุภชัย : กกต.ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีที่ตามมากับนายกฯ ก็บอกว่าทำไม่ได้และศาลรัฐธรรมนูญแทงกั๊กจะสั่งอะไรก็ไม่สั่งไป มีบางท่านบอกว่าอย่าลากนายกฯ ผมไปติดคุก ยืนยันว่าการเลื่อนการเลือกตั้งต้องทำเป็น พ.ร.ฎ. ซึ่ง กกต.ทำเองไม่ได้ เมื่อเราเลื่อนการเลือกตั้งเองไม่ได้จึงจำเป็นต้องเลือกตั้งไปตามกฎหมาย

จรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ : ทำไม กกต.ถึงมีความเห็นว่าการออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกระทบถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ ในการเลือกตั้ง?

ศุภชัย : กกต.เห็นว่าการที่คณะรัฐมนตรีรักษาการจะก่องานอันใดอันเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้ได้เปรียบในการเลือกตั้งจะกระทำไม่ได้ กกต.ได้ออกหนังสือเตือนไปว่าแม้รัฐบาลจะมีอำนาจออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ แต่ต้องพึงระวังไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง

ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : เมื่อ กกต.รู้แล้วว่าได้ผู้สมัครไม่ครบ 28 เขตเลือกตั้ง ทำไม กกต.ไม่ขยายเวลาการรับสมัครจนกว่าจะได้ผู้สมัครครบเพื่อให้มีการเลือกตั้งได้ ทั้งที่รัฐธรรมนูญมาตรา 235 บัญญัติให้อำนาจการจัดการเลือกตั้งเป็นของ กกต. เหมือนกับเวลารับสมัครผู้ประมูลถ้าเกิดไม่มีผู้เข้ามาประมูลก็ต้องเลื่อนการประมูลออกไปโดยธรรมชาติ?

วรภัทร : กฎหมายเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายมหาชน ถ้าไม่มีบทบัญญัติรองรับก็จะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ซึ่ง กกต.พิจารณาในประเด็นนี้อย่างครบถ้วนแล้ว

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1