โกตี๋ดับเครื่องชน ผบ.ทบ.
วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋เรดการ์ด แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี
วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋เรดการ์ด แกนนำคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หลังกองทัพบกทำหนังสือให้ บช.น.ตรวจสอบการกระทำผิดของโกตี๋ กรณีติดป้ายข้อความ “อยู่กันด้วยความสามัคคีไม่ได้ ก็แบ่งแยกกันอยู่...มึงกับกูแยกแผ่นดินกันเลย” ในพื้นที่เขตรอยต่อ กทม. และ จ.ปทุมธานี หลายจุด
โกตี๋ได้เขียนแถลงการณ์ด้วยลายมือเผยแพร่แก่สื่อมวลชน ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยืนเลือกข้างอยู่กับกบฏ สุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ปกป้องนายกรัฐมนตรีซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชา ที่ถูกกลุ่มกบฏด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย บุกรุกบ้าน ปล่อยให้กบฏทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำธงชาติมาปู้ยี่ปู้ยำ บุกรุกสถานที่ราชการ ตัดน้ำ ตัดไฟ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำอะไรเลย
โกตี๋นั้นแม้จะเป็นแกนนำเสื้อแดงที่มีบทบาทสูง แต่ก็ไม่ได้อยู่ร่วมในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เขาเรียกตัวเองว่า โกตี๋นอกคอก แดงอิสระ
ก่อนหน้านี้ ช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โกตี๋เคยพูดผ่านวิทยุชุมชนให้คนเสื้อแดงเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะการกดดันจากกองทัพ ถัดมาเพียงสัปดาห์เดียวในการประชุมแกนนำกลุ่ม นปช. ที่ จ.นครราชสีมา เนื้อหาในการประชุมดังกล่าวไม่ต่างกับที่โกตี๋พูด ทั้งการเตรียมพร้อมกองกำลังรวมทั้งการแบ่งแยกประเทศ
แม้ นปช.จะเรียงหน้าออกมาปฏิเสธว่า แนวคิดแบ่งแยกประเทศนั้นเป็นการพูดในลักษณะน้อยเนื้อต่ำใจที่กระบวนการยุติธรรมเข้าข้างกลุ่ม กปปส. แต่การพูดของแกนนำหลายคน ต่างที่ ต่างวาระ แต่สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน ก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า ไม่ใช่การปลุกคนเสื้อแดงด้วยกันเองเท่านั้น แต่อาจจะพยายามทำให้สังคมโลกได้เห็นว่า กองทัพนั้นไม่เป็นกลางและกำลังแทรกแซงเพื่อล้มรัฐบาล
แต่กระแสต่อต้านวาทกรรมแบ่งแยกประเทศ จากหลายภาคส่วนในสังคมเริ่มหนักหน่วง อีกทั้งกองทัพเลือกใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้าจัดการกลุ่ม นปช. ก็พากันลดบทบาทและไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าวอีกเลย คงเหลือแต่เพียงโกตี๋
การที่โกตี๋กล่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ อย่างรุนแรงหลายครั้ง ในฐานะกลุ่มเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวอิสระ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะเป็นแนวทางเดิมที่โกตี๋ได้ประกาศอยู่เสมอว่า จะต่อต้านทุกกลุ่มที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งมาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม หลังวาทกรรมแบ่งแยกประเทศส่งผลลบต่อขบวนคนเสื้อแดง ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ กลุ่มเสื้อแดง 17 จังหวัดภาคเหนือได้จัดชุมนุมใหญ่ขึ้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ จ.เชียงใหม่ โดยตัวแทนแต่ละจังหวัดจะเคลื่อนขบวนคล้ายขบวนรถแรลลี่มารวมกันที่ จ.เชียงใหม่
ศิริวัฒน์ จุปะมัดถา คณะทำงานสหพันธ์อีสานล้านนา ปกป้องประชาธิปไตย กล่าวว่า ในเวทีครั้งนี้จะไม่มีการพูดถึงประเด็นเรื่องการแบ่งแยกประเทศเพราะเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญไม่ต้องการให้ถูกนำไปเป็นสิ่งที่โหมกระแสทางการเมืองอีกต่อไป
ด้านแหล่งข่าวศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เปิดเผยว่า สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหน่วยงานต่างๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการฉุกเฉิน ซึ่งอาจมีการยกเลิกในช่วงสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นวันที่ 7 มี.ค. ขณะที่กลุ่ม กปปส. ประมาณ 300 คน ชุมนุมกันอยู่ที่หน้าอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด กลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่ามีชายชุดดำอยู่บนดาดฟ้าตึก จึงพยายามเข้าไปปิดล้อม ต่อมาเกิดระเบิดขึ้นที่บริเวณประตูทางออก แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


