แจ๊ค-สุขารมณ์ความตายอันเป็นปริศนา?

แม้จะมีพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าหมอแจ๊คกระโดดสะพานลอยเอง ส่วนตำรวจก็ระบุว่าพยายามปีนเสาไฟฟ้า แต่ที่แน่ๆ เพลงไม่มีแล้ว ที่แจ๊ค สุขารมณ์ เคยขับกล่อมไว้ว่า ทิ้งอดีตที่ว่างเปล่า

โดย...ธนก บังผล

เพียงไม่กี่ชั่วโมงวงการบันเทิงสูญเสียนักร้องไป 2 คน ในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 9 พ.ค. “เนส” ธนดล นิลนพรัตน์ อายุ 25 ปี วีเจช่องป๊อป แชนแนล และอดีตนักร้องค่ายแกรมมี่ เสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลเลิดสิน จากอาการแพ้ยาหลังเข้ารับการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบรุนแรง

แพทย์ยืนยันว่าเป็นเพราะการติดเชื้อในกระแสเลือด และไวรัสตับอักเสบบีขึ้นสมอง

ก่อนหน้านี้ “เนส” ได้ขอลาพักงานเพื่อไปรักษาตัวนาน 1 เดือน ตามคำแนะนำของแพทย์ หลังร่างกายซูบผอมลงเพราะเบื่ออาหาร ซึ่งตรวจพบภายหลังว่ามีความผิดปกติในช่องท้องเกี่ยวกับตับและไต

แม้ว่า “เนส” ได้พยายามฝืนร่างกายตัวเองไม่ยอมพัก เนื่องจากเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งยังเพิ่งเปิดร้านเบเกอรีให้แม่ จึงอยากทำงานให้เต็มที่ก่อน แต่ในที่สุดโรคร้ายก็คร่าชีวิตเด็กกตัญญูอีกคนหนึ่งไปก่อนวัยอันควร

ช่วงกลางดึกขึ้นเช้าวันที่ 10 พ.ค. กลายเป็นข่าวฮือฮายิ่งกว่าเมื่อมีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ว่า นพ.พรเดชา หรือแจ๊ค สุขารมณ์ อดีตนักร้องที่เคยก่อเหตุอื้อฉาวทุบตีเลขานุการของตัวเอง ได้เสียชีวิตลงแล้ว

แจ๊ค สุขารมณ์

เคราะห์คราวซวยของ “หมอแจ๊ค” เป็นเพราะตกจากที่สูง บางข่าวรายงานว่าพลัดตกจากคอนโดมิเนียมของตนเอง บางข่าวว่าหมอแจ๊คกระโดดสะพานลอยที่ถนนเพชรบุรี

แต่ที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ พลัดตกลงมาจากสะพานลอยหน้าโรงพยาบาลกรุงเทพ ข้างศูนย์ทันตกรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ได้รับแจ้งเหตุไว้ โดยจะนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

“แจ๊ค สุขารมณ์” เจ้าของอัลบั้มเพลง “โซล เซิร์ชชิ่ง” เป็นลูกชายของ นพ.เดชา สุขารมณ์ อดีตเจ้าของโรงพยาบาลเดชา

นอกจากนี้ นพ.เดชา ยังเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.กาญจนบุรี เป็นอดีต รมว.ทบวงมหาวิทยาลัย และ รมช.สาธารณสุข ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย อีกด้วย

“หมอแจ๊ค” ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการคลินิกเสริมความงาม “อีเอ็นวี แอสเทติก” (ENV Aestetic) ตั้งอยู่ที่อาคารอัมรินทร์พลาซา โรงแรมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน เคยตกเป็นข่าวครึกโครมในคดีทำร้ายร่างกายเลขานุการสาวจนบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2552

คดีความในครั้งนั้นเริ่มขึ้นเมื่อหมอแจ๊คนำความเข้าขอคำปรึกษากับกองบังคับการปราบปราม เนื่องจากสงสัยว่าเลขานุการยักยอกเงินค่าตกแต่งคลินิก เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ก่อนเกิดเรื่อง 2 วัน

แจ๊ค สุขารมณ์ ร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ เปิดคลินิกในอาคารอัมรินทร์พลาซา โดยว่าจ้างผู้รับเหมามาตกแต่งคลินิก และมอบหมายให้เลขานุการเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งหมดตามงบประมาณที่จัดไว้ 2 ล้านบาท

แต่หลังจากที่ตกแต่งคลินิกไปได้ระยะหนึ่งกลับมีค่าใช้จ่ายเกินเลยไปมากบานปลายเป็นเงินสูงถึงเกือบ 10 ล้านบาท แต่งานก็ยังไม่เสร็จ จึงทำให้บรรดาหุ้นส่วนทั้งหมดเริ่มมีปัญหา บางรายถึงกับขอถอนตัวออกไป
 
พอหมอแจ๊คนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายต่างๆ มาตรวจสอบกับเลขาฯ ว่าใช้เงินจ่ายค่าอะไรไปบ้าง จึงพบใบเสร็จจำนวนมากที่สั่งจ่ายเช็คโดยไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไร ซึ่งเลขาฯ ไม่สามารถตอบคำถามได้ นพ.พรเดชา จึงสงสัยว่าเลขาฯ ทุจริต

ซึ่งรองผู้การกองปราบฯ พ.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม แนะนำให้หมอแจ๊คกลับไปหาหลักฐานเพื่อกลับมาแจ้งความให้เรียบร้อยอีกครั้ง โดยยังไม่ได้แจ้งความเป็นคดี เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

คลาดไปไม่นาน มือไม้เข่าศอกก็ได้ถูกประเคนลงตามร่างกายของ น.ส.อัญชลิตา เรืองโรจน์ เลขาฯ สาวของหมอแจ๊ค

เธอพาร่างอันบอบช้ำเข้าขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ว่าถูก “หมอแจ๊ค” นำตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บเพื่อบังคับให้ยอมรับว่าเป็นคนยักยอกเงินหลายล้านบาทในงบประมาณตกแต่งคลินิก

นางปวีณาต้องตกใจเมื่อเห็นผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงสภาพร่างกายทรุดโทรมอย่างมาก ขอบตาทั้ง 2 ข้างมีรอยฟกช้ำบวมปูด และมีอาการหวาดระแวงคนแปลกหน้าที่เข้ามาในห้องอย่างเห็นได้ชัด

แพทย์ผู้รักษาได้ตรวจอาการคนไข้และเอกซเรย์อย่างละเอียดแล้ว พบว่ากะโหลกศีรษะปกติ ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน แต่ร่างกายมีรอยฟกช้ำตามสะโพก ขา หลัง และแขน ที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างเขียวบวม นอกจากนี้คนไข้มีสติดี พูดคุยรู้เรื่อง ส่วนความหวาดระแวงเป็นปกติของคนที่ถูกทำร้ายร่างกายมา จึงเกิดอาการกลัวคนแปลกหน้า

ในส่วนคดีคราวนั้น สน.ลุมพินี ได้แจ้งข้อหา นพ.พรเดชา กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นอีกหรือไม่ จะต้องรอความเห็นจากแพทย์โรงพยาบาลตำรวจว่า น.ส.อัญชลิตา ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่

สำหรับข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวคาดว่าอาจจะเกิดในท้องที่ สน.พญาไท แต่ต้องสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้งว่าเป็นการกระทำผิดที่เกี่ยวเนื่องจากในท้องที่ลุมพินีหรือไม่ และจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะแจ้งข้อหานี้ได้หรือไม่ อีกทั้งยังต้องสอบสวนผู้เสียหายว่าขณะเกิดเหตุมีพยานอื่นรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้ออกหมายเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยานไว้ประกอบสำนวนด้วย

คดีได้หายไปจากกระแสอย่างเงียบๆ เลยไปกว่า 5 เดือน ก็เกิดเหตุสลดตามข่าว แม้จะไม่มีใครในครอบครัวหมอแจ๊คยินดีออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติที่ดูคล้ายๆ ให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของหมอหนุ่มอนาคตไกล

ย้อนไปเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2550 “หมอแจ๊ค” จัดงานแต่งงานแบบสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกริมแม่น้ำแคว จ.กาญจนบุรี กับ “เชอรี่-วีรินท์ อนันตพัฒนาวงศ์” โปรแกรมไดเรกเตอร์ และดีเจสาวคนเก่งแห่งคลื่นเวอร์จิ้นซอฟท์ 103

กล่าวกันว่างานแต่งคราวนั้นคู่รักบ่าวสาวหวานใส่กันจนทำให้แขกที่มาร่วมงานเกิดอาการอยากแต่งงานขึ้นมาเลยทีเดียว

“ทิ้งอดีตที่ว่างเปล่า ทิ้งไปกับสายลม ทุกๆ เหตุการณ์ที่หมองหม่น ที่ทนที่ทรมาน ปล่อยชีวิตเก่าๆ ให้เลยผ่าน ทิ้งไปกับเมื่อวาน เพราะว่าวันนี้ฉันไม่มีเธออีกแล้ว” เป็นเนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่ “หมอแจ๊ค” เคยร้องไว้

หลังการสูญเสียอย่างไม่มีวันหวนคืน พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี ซึ่งดูแลคดีที่ น.ส.อัญชลิตา เลขานุการสาวแจ้งความดำเนินคดีหมอแจ๊ค อดีตนักร้องชื่อดัง ว่าทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. 2552 ว่า

คดีที่ น.ส.อัญชลิตา แจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.พรเดชา ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและทำร้ายร่างกาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนเรียบร้อยแล้ว เตรียมส่งเรื่องให้อัยการเพื่อส่งฟ้องต่อไป โดยทนายความของ นพ.พรเดชา ได้นัดที่จะพา นพ.พรเดชา เข้าพบพนักงานอัยการเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 10 พ.ค.นี้

แต่เมื่อเกิดเหตุเสียชีวิต พนักงานสอบสวนคงต้องแสดงความคิดเห็นแก้สำนวนสอบสวนใหม่ โดยทำเรื่องสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องนำสำนวนการแจ้งเสียชีวิตมาประกอบสำนวนส่งอัยการอีกครั้ง

เกิดอะไรขึ้นกับความตายของ “หมอแจ๊ค” ย่อมเป็นเรื่องที่ยากแท้หยั่งถึง เว้นแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่จะตอบได้

แม้จะมีพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าหมอแจ๊คกระโดดสะพานลอยเอง ส่วนตำรวจก็ระบุว่าพยายามปีนเสาไฟฟ้า

แต่ที่แน่ๆ เพลงไม่มีแล้ว ที่แจ๊ค สุขารมณ์ เคยขับกล่อมไว้ว่า ทิ้งอดีตที่ว่างเปล่า ทิ้งไปกับสายลม ทุกๆ เหตุการณ์ที่หมองหม่น ที่ทนที่ทรมาน

คงเป็นคำอาลัยให้แฟนเพลงได้จดจำ “แจ๊ค สุขารมณ์” เป็นครั้งสุดท้ายได้ดีที่สุด