ชาวนาสุดทนโห่ไล่‘กิตติรัตน์’เผ่นกระเจิงรัฐบาลยันมีเงินจ่ายหนี้หมดภายใน8สัปดาห์

ชาวนาไม่พอใจ กิตติรัตน์ ขว้างปาสิ่งของใส่จนหนีอุตลุด ยันมีเงินจ่ายหนี้วันละ 4,000 ล้านบาท

ตัวแทนชาวนา นำโดยนายระวี รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมชนภาคตะวันตก และผู้ประสานงานเครือข่ายชาวนาไทย ได้เจรจากับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรงบุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ และนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เกี่ยวกับแนวทางการจ่ายเงินค่าข้าว

นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า จะเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างอยู่ให้กับชาวนา 1.1 แสนล้านบาท คาดว่าจะจ่ายหมดภายใน 6-8 สัปดาห์ หากไม่มีฝ่ายใดมาค้าน โดยสำรองเงินส่วนหนึ่งมาจาก ธ.ก.ส. ขอแหล่งเงินกู้ระยะสั้นมาชำระให้เกษตรกร เริ่มจ่ายให้ชาวนาวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

“ยืนยันว่าการจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นมาช่วยสมทบสภาพคล่องให้ ธ.ก.ส. ก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเกษตรกร และการจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นครั้งนี้ก็จะไม่มีผลภาระผูกพันต่อรัฐบาลชุดหน้า” นายกิตติรัตน์ กล่าว

ขณะที่นายทนุศักดิ์ กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า ว่า อยากเรียกร้องให้ประชาชนไม่ไปถอนเงินออกจากธนาคารที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา และอยากให้ประชาชนร่วมกันช่วยโดยนำเงินไปฝากที่ธนาคาร อยากจะทำร้ายรัฐบาลก็ทำไป แต่การกระทำที่เกิดขึ้นจะเป็นการซ้ำเติมชาวนา

หลังจากนั้น นายกิตติรัตน์จึงได้ลงมาพบเกษตรกรผู้ชุมนุมท่ามกลางการอารักขาจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนับสิบคน พร้อมกับชี้แจงว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินให้กับชาวนาวันละ 4,000 ล้านบาท และจะจ่ายทั้งหมดให้เร็วที่สุด แต่ต้องไม่มีฝ่ายอื่นมาขัดขวาง

ระหว่างนั้นชาวนาได้ให้นายกิตติรัตน์ยืนยันว่าจะจ่ายเงินทั้งหมดได้เมื่อไร แต่นายกิตติรัตน์ไม่สามารถยืนยันได้ ทางชาวนาไม่พอใจ ตะโกนโห่ไล่นายกิตติรัตน์ พร้อมปาขวดน้ำ ส้ม แตงโม และหัวเสาธงเข้าใส่ทำให้ทหารต้องรีบนำตัววิ่งกลับเข้าในอาคาร

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า จะเดินหน้าระบายข้าวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ต.ค. 2556ม.ค. 2557 ได้ส่งเงินจากการระบายข้าวให้ ธ.ก.ส. 3.5 หมื่นล้านบาท และในเดือน ม.ค. สามารถขายข้าวได้เพิ่มขึ้นประมาณ1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ในเดือน ก.พ. และ มี.ค.นี้ จะประกาศขายข้าวเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 1 ล้านตัน

ขณะที่กลุ่มชาวนาประกาศว่าจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพื่อยกระดับการชุมนุมจนกว่าจะได้รับความชัดเจนจากรัฐบาล