เปิดข้อมูลศรส.สาแหรก"ท่อน้ำเลี้ยง"โยงกปปส.

โดย...ทีมข่าวการเมือง

แม้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ยังไม่ประกาศรายชื่อท่อน้ำเลี้ยง กปปส. ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ 32 รายชื่อ ทั้งนิติบุคคลและบุคคลที่หลุดออกมาตามสื่อมวลชนนั้น ล้วนมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น

“ยอมรับรายชื่อที่หลุดออกไปบางส่วนตรงกับที่ดีเอสไอรวบรวมจริง ส่วนเรื่องการฟ้องร้องนั้น อยากบอกว่า การทำงานของเราไม่แตกต่างจากสมัยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แต่อย่างไรก็ตาม การรวบรวมรายชื่อก็เป็นไปอย่ารอบคอบ” ธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาฯ ศรส.ระบุ หลังบริษัทที่ถูกขึ้บัญชีขู่ฟ้องกลับ

ทั้งนี้ 32 รายชื่อ ในล็อตแรกนั้น ศรส.มีข้อมูลเชื่อมโยงกับ กปปส. ดังนี้

บริษัท สหพัฒนพิบูล ของตระกูล “โชควัฒนา” ซึ่งประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า โดยมี บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร ปัจจุบันเป็น สว.สรรหา ซึ่งได้แสดงบทบาทตรวจสอบรัฐบาลอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องการจำนำข้าวผนวกกับ ณรงค์ โชควัฒนา ผู้พี่ ได้แสดงจุดยืนคนละฟากกับรัฐบาลเช่นกัน จึงถูกขึ้นบัญชีท่อน้ำเลี้ยง

“ผมไม่แปลกใจและไม่ตกใจ เพราะรู้มาสองสัปดาห์แล้ว เพราะเขาคุยกันภายในว่าจะระบุใคร แต่ที่ไม่ตกใจเพราะเราไม่ทำอะไร การที่ใส่ชื่อไปเหมือนกับไม่ดูตาม้าตาเรือ เห็นอะไรก็ใส่เข้าไป ซึ่งมีผลกระทบต่อคนที่มีชื่อ การที่เขาซื้อของเราไปใช้ อย่างนี้ถือว่าเราเป็นท่อน้ำเลี้ยงหรือ” บุญชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม บุญชัย บอกว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา หาก ศรส.ทำให้บริษัทเกิดความเสียหายก็จำเป็นจะต้องฟ้อง

งานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการ ศรส. ก็ออกมาตอบโต้ทันที ว่า วันนี้ สหพัฒน์ ออกมาขู่ว่าจะฟ้อง ทั้งที่จริงแล้วลุ้นให้คนในบริษัทตัวเองมาเป็นนายกฯ เพราะเคยเป็นแล้วจึงเคยตัว อยากให้พรรคพวกมาเป็นอีก จึงขอประณามพวกที่ไม่ลงเลือกตั้ง ไม่ตั้งพรรคการเมืองแล้วอยากเป็นนายกฯ ถือว่าหน้าด้าน

การตอบโต้ของ ร.ต.อ.เฉลิม นั้นเป็นการพุ่งเป้าไปยัง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัย ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของ บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ นั่นเอง

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเกษร พลาซ่า ของ ชาย-ชาญ ศรีวิกรม์ ถูกหางเลขไปด้วย เพราะเป็นเครือญาติ กับ ทยา (ศรีวิกรม์) ทีปสุวรรณ เจ้าของบัญชี ครัวราชดำเนิน โดยที่ ทยา นั้น ได้แต่งงานกับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต สส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ลาออกมาเป็นแกนนำ กปปส.ด้วย จึงทำให้โรงแรมสยาม อินเตอร์คอนติเนนตัล ที่ ทยา ถือหุ้น ต้องถูกขึ้นบัญชี เนื่องจากเป็นสถานที่พักพิงของ สุเทพ และแกนนำ กปปส. เช่นเดียวกับโรงแรมดุสิตธานี ที่ตระกูล “ปิยะอุย” เป็นเจ้าของ ที่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนชัดเจน

ด้านห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ถูกขึ้นบัญชี เพราะแกนนำกลุ่ม กปปส.ไปใช้บริการ อาทิ ใช้เป็นที่จอดรถ ที่นั่งประชุมย่อย ส่วนบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ของ วิชัย รักศรีอักษร นั้น ติดโผ เพราะแนบแน่นกับ สุเทพ ว่ากันว่า วิชัย เป็นคนดีลให้ เนวิน ชิดชอบ พบกับ สุเทพ ก่อนนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาล อภิสิทธิ์ ในเวลาต่อมา ส่วนบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ (น้ำสิงห์) เกี่ยวพันกับ จิตภัสร์ (ภิรมย์ภักดี) กฤดากร แกนนำ กปปส. บริษัท ไทยน้ำทิพย์ (โค้ก) ของตระกูล “สารสิน” นั้น พรวุฒิ สารสิน ซีอีโอ เป็น อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จึงถูกจัดอยู่ในข่ายท่อน้ำเลี้ยงด้วย

นอกจากนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ (เบียร์ช้าง) ของ เจริญ สิริวัฒนภักดี โดนหางเลข เพราะอุดหนุนทุกฝ่าย ส่วนบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต ติดโผ เพราะเป็นของ โพธิพงษ์ ล่ำซำ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมบุตรสาว นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย อดีตผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนกลุ่มเมโทรแมชีนเนอรี่ ของตระกูล “บูรพชัยศรี” ธุรกิจเครื่องจักรกล ครอบครัวของ อนุชา บูรพชัยศรี สส. กทม.พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งหมดนี้อยู่ในบัญชีท่อน้ำเลี้ยงของ ศรส.แล้ว แต่ยังไม่มีการประกาศออกมา เนื่องจากในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา ทาง พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แสดงความเห็นว่าการมีรายชื่อนักธุรกิจไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เกรงว่าอาจจะสุ่มเสี่ยงถูกฟ้องกลับได้ จึงเป็นเหตุให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ ศรส. ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรส.ไม่ยอมลงนามในคำสั่งดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้มีการเลื่อนประกาศรายชื่อท่อน้ำเลี้ยงออกไป