ฮือไล่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูดพัทลุง
ชาวบ้าน ปิดล้อม หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด หลังถูกแจ้งความจับข้อหาบุกรุก
ชาวบ้าน ปิดล้อม หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด หลังถูกแจ้งความจับข้อหาบุกรุก
ชาวบ้านหมู่ 15 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง กว่า 100 คน ได้เคลื่อนไหวเข้าทำการปิดล้อมทางเข้าออกหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านพูด เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด หมู่ 13 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกแจ้งความจับกุมชาวบ้านข้อหาบุกรุกป่า
นอกจากนี้ชาวบ้านยังได้เรียกร้อง ให้ นายนิกร สุวรรณการณ์ หัวหน้าหน่วยพิทักป่าบ้านพูด ย้ายออกภายใน 7 วัน ให้ได้สิทธิ์ในการถือครองการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สวนยางพารา ให้ได้รับการสงเคราะห์การทำสวนยางปลูกแทนยางพาราที่หมดสภาพ และสามารถโค่นและขายไม้ยางพาราได้ตามความต้องการของชาวสวนยาง โดยที่ไม่ต้องเสียเงินให้เจ้าหน้าที่หน่วย และให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือผู้ที่บุกรุกน้ำตกไพรวัลย์ ย้ายออกจากเขตทันที
โดยข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก หัวหน้าหน่วยพิทักป่าบ้านพูด พร้อมกำลังเข้าตรวจยึดสวนยางพารา ที่กำลังตัดโค่น เนื้อที่ 1.3 ไร่ และแจ้งความจับกุม นายถ้อง อักษรเนียม อายุ 68 ปี ในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างพื้นที่เขตอนุรักษ์และพื้นที่ของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจจึงรวมตัวเรียกร้องดังกล่าว
นายสมจิตร ช่วยสงคราม อายุ 46 ปี แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มักจะรังแกชาวบ้านผู้บริสุทธิ์และหาเช้ากินค่ำบ่อยครั้ง จนชาวบ้านรับไม่ได้ในการกระทำ ที่ทำเกินกว่าเหตุ และกลั่นแกล้งจับกุมชาวบ้านที่ไม่ยอมจ่ายเงินให้ ซึ่งหากรายใดมีเงินจ่าย ก็ไม่ถูกจับกุม โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้หน่วยพิทักษ์ป่าในรัศมีห่างออกไป 100 เมตร ได้มีการแผ้วถางตัดไม้ขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ก็เพิกเฉยไม่มีการจับกุม
"กับชาวบ้าน ที่อยู่ในพื้นที่มานาน หากปรับพื้นที่เพื่อปลูกยางพาราทดแทนใหม่ ก็จะถูกดำเนินคดีเกือบทุกราย อย่างของนายถ้อง อักษรเนียม ที่ถูกจับกุมเมื่อ 3วันที่ผ่านมา แกอาศัยอยู่มานานกว่า 40 ปี และของทุนสงเคราะห์สวนยางมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็ยังถูกยึดและจับกุม หลังจากนี้ทางชาวบ้านจะทำหนังสือถึงจังหวัด เพื่อให้เร่งลงมาแก้ไข หากไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะต่อสู้กันให้ถึงที่สุด"นายสมจิตร กล่าว