posttoday

ศรัทธาเหนือกาลเวลา 400 ปี บารมี 'หลวงพ่อทวด'

26 มกราคม 2557

การชุมนุมทางการเมืองต่อเนื่องจากปลายปี 2556 จนถึงการชุมนุมชัตดาวน์กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน/วิทยา ปะระมะ

การชุมนุมทางการเมืองต่อเนื่องจากปลายปี 2556 จนถึงการชุมนุมชัตดาวน์กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ได้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้แกนนำผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. รวมถึงทีมรักษาความปลอดภัยต่างตกอยู่ในความเสี่ยง จำต้องพกเครื่องรางของขลังติดตัวป้องกันอันตราย

กระทั่งกระสุนนัดนั้นพุ่งฝ่าความเงียบตรงเข้าสู่ร่างของการ์ดผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ต่อเนื่องด้วยระเบิดสังหารชนิด RGD-5 ตกลงใกล้ๆ ผู้สื่อข่าวสาวหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ซึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

บรรยากาศความรุนแรงเริ่มปกคลุมทุกพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ

ลูกตะกั่วที่พุ่งใส่ชายฉกรรจ์กระแทกใส่เหรียญ “หลวงพ่อทวด” กลางอกอย่างแรง ทว่าการ์ดรายนี้รอดมาอย่างปาฏิหาริย์ เช่นเดียวกับนักข่าวสาวโพสต์ทูเดย์ที่ห้อยหลวงพ่อทวดก็โดนแค่สะเก็ดระเบิด บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทั้งคู่เชื่อในอภินิหารและบุญบารมีของหลวงพ่อทวดที่คอยคุ้มครอง

จากเหตุการณ์นั้นมีคำกล่าวขวัญถึง “พุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์” ที่จารึกในศรัทธามากว่าครึ่งศตวรรษของหลวงพ่อทวดขึ้นอีก

“แขวนพระหลวงพ่อทวดไม่ตายโหง” คือคำกล่าวของ พระครูวิสัยโสภณ “ทิม ธัมมธโร” เมื่อปี 2497 ครั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

พุทธคุณที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธาและบูชา “หลวงพ่อทวด” มานับครั้งไม่ถ้วน คือ “แคล้วคลาดปลอดภัย” มีการสืบคติความเชื่อส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นว่า ยามที่กล้ำกรายเข้าสู่ภัยอันตรายให้ระลึกถึงคาถาบูชา “นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา” พรบารมีของท่านจะคุ้มครอง

ตำนานเล่าขานว่า “หลวงพ่อทวด” มีชีวิตอยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 400 ปีก่อน ในอดีตชาวปักษ์ใต้เรียกขานท่านว่า “สมเด็จพะโคะ” ส่วนคำว่า “ทวด” เกิดขึ้นภายหลังตามความเชื่อของชาวใต้ที่หมายถึงผู้มีบุญได้รับการกราบไหว้บูชาเพื่อระลึกถึงแม้ในยามที่บุคคลดังกล่าวล่วงลับไปแล้ว หรือผู้มีบารมีเทียบดังเทพเรียกว่า “ปู่ทวด”

หนังสือ “สู่ความจริง เส้นทางธรรม หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” พิมพ์โดยสำนักปฏิบัติธรรม พุทธพจนวราภรณ์ จ.ลำพูน ได้บันทึกการศึกษาเส้นทางธรรมของพระราชมุนีสามีราโม หรือสามีราม หรือพ่อทวด จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์

“มีภิกษุรูปหนึ่งที่ขึ้นมาจากแดนใต้ และได้มาประกาศความเป็นปราชญ์อันปราดเปรื่องในเรื่องธรรมให้กับชาวเมืองในเมืองหลวงกรุงศรีอยุธยาให้ได้รู้ได้เห็น และได้ยกย่องท่านขึ้นเป็นสมเด็จ ซึ่งคำว่า ‘สมเด็จ’ ในที่นี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัย บ้างก็ว่าหมายถึงสมเด็จพระสังฆราช บ้างก็ว่าหมายถึงพระสมเด็จที่ได้รับยกย่องจากพระมหากษัตริย์”

ขณะที่อภินิหารเรื่อง “เหยียบน้ำทะเลจืด” พูดกันปากต่อปากว่า ตอนที่ท่านโดยสารเรือสำเภาเข้ากรุงศรีอยุธยานั้น ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพรเกิดคลื่นทะเลปั่นป่วน ต้องทอดสมออยู่ 7 วัน จนเสบียงและน้ำจืดหมด

ลูกเรือพากันตั้งข้อสงสัยว่า เหตุอาเพศครั้งนี้เป็นเพราะมีท่านโดยสารมาบนเรือด้วย จึงตัดสินใจจะส่งท่านขึ้นเกาะ ขณะที่ลงเรือเล็กนั้นท่านได้ห้อยเท้าซ้ายแช่ลงในน้ำทะเล น้ำบริเวณนั้นก็เกิดเป็นประกายแวววาวโชติช่วง ท่านจึงบอกให้ลูกเรือตักขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักให้พอ

นอกจากนี้ ครั้งหนึ่งขณะท่านเดินอยู่ชายทะเลเคยถูกโจรสลัดลองดีจับตัวไปไว้บนเรือ ชั่วครู่ก็เกิดอัศจรรย์เรือแล่นไปไม่ได้ แล่นได้ก็วนเวียนอยู่ที่เดิม ในที่สุดน้ำจืดบนเรือก็หมดลง ท่านนึกสงสารจึงแหย่เท้าซ้ายลงในน้ำทะเลแล้ววักน้ำขึ้นมาล้างหน้าดื่มกิน โจรจึงลองดูบ้างก็รู้ว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักไว้แล้วขอขมานำท่านขึ้นฝั่ง

ระยะเวลาผ่านมาไม่ต่ำกว่า 5-7 ชั่วอายุคน ทว่าความศรัทธาต่อพ่อท่านไม่เคยลบเลือน ปัจจุบันผู้ที่ศรัทธาในพุทธคุณของหลวงพ่อทวดต่างนิมนต์พ่อท่านขึ้นคอเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเสริมสร้างสิริมงคลให้กับชีวิต โดยเฉพาะชาวใต้ที่เลื่อมใสบูชาท่านมากเป็นกรณีพิเศษ

“หลวงพ่อทวด” รุ่นแรกปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสวัดช้างให้ เมื่อปี 2497 เป็นพระเนื้อว่าน ประวัติเล่าว่า ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ทิมพร้อมคณะได้สำรวจเส้นทางการเคลื่อนพระศพหลวงพ่อทวด ซึ่งมรณภาพที่มาเลเซีย โดยได้เก็บเอาดินสถูป (หลวงพ่อทวดสั่งไว้ว่าศพท่านพักที่ไหนและมีน้ำเหลืองหยดลงให้ปักไม้ทำสถูป ณ จุดนั้น ซึ่งมีทั้งหมด 11 แห่ง) มาเป็นมวลสารในการสร้าง

หนังสือสู่ความจริง เส้นทางธรรมฯ บันทึกไว้ว่า “อาจารย์ทิมได้รับนิมิตจากหลวงพ่อทวดให้ไปเอาดินสถูปเหล่านี้มาทำ แต่ประวัติศาสตร์วัดช้างให้ไม่ได้บันทึกไว้ แต่เรามีหลักฐานที่เชื่อได้เพราะผู้ให้ข้อมูลคือพระครูศีลธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดพิกุลธาราม (วัดประดู่) จุดที่ 7 ในรัฐเคดาห์ ให้ฟังว่าเป็นคนปั่นจักรยานพาอาจารย์ทิมซ้อนท้ายไปเก็บดินตามสถูปหลวงพ่อทวด”

หนังสือยังบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “ขอย้อนกลับไปเรื่องภาพของหลวงพ่อทวดสมัยพระอาจารย์ทิมสร้างพระเครื่องรุ่นแรกในปี พ.ศ. 2496 ขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพราะบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้คือ ท่านอาจารย์ประกิต (จิตร) บัวบุศย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาประติมากรรมและจิตรกรรม

“ปัจจุบันท่านอายุประมาณ 92 ปี สมัยที่พระอาจารย์ทิมมาขอให้ท่านทำแม่พิมพ์ในการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเพาะช่าง ท่านบอกว่าท่านยังไม่เคยเห็นหลวงพ่อทวดเลย แล้วท่านจะแกะหรือวาดภาพออกมาได้อย่างไร สุดท้ายท่านก็ใช้วิธีนั่งสมาธิอธิษฐานจนมีภาพหลวงพ่อทวดปรากฏที่หัวแม่มือข้างซ้าย

“รูปนั้นปรากฏอยู่ถึง 15 วัน จนท่านทำงานเสร็จ ตลอดระยะเวลา 15 วัน ผ่านไปด้วยความยากลำบาก แม้แต่จะเข้าห้องน้ำก็ต้องคอยระวังชูมือไว้ เพราะเกรงว่าภาพจะเลือนหายไป ใช้งานมือขวาเพียงข้างเดียว”

นอกจากนี้ หนังสือเขียนไว้ว่า “พระอาจารย์ อารยะวังโสจาริกธุดงค์ไปตามเส้นทาง มีความรู้สึกว่าหลวงพ่อทวดท่านธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ทั่วเมืองไทย พระธุดงค์ย่อมมีบุคลิกที่แข็งแกร่ง จึงอธิษฐานขอภาพท่านสมัยที่ยังไม่สูงอายุ และให้ช่างศิลป์วาดตามภาพในนิมิตของพระอาจารย์”

“เมื่อเห็นภาพวาดนี้ พระผาสุขฐานวุฑโฒ เล่าว่าเมื่อท่านไปบำเพ็ญภาวนาที่ปากทางหน้าถ้ำครก (พระอาจารย์ขึ้นไปวิปัสสนาอยู่ในถ้ำองค์เดียว ปิดบาตรไม่ฉันอาหาร ไม่นอนอยู่ 3 วัน) หลวงพ่อทวดมาปรากฏให้เห็นหน้าตาเหมือนกับภาพวาดทุกอย่าง เป็นการเห็นภาพในนิมิตก่อนจะได้เห็นภาพวาดจริง”

สำหรับในวงการพระเครื่องเรียกได้ว่า หลวงพ่อทวด เป็น “อมตะ” ไม่มีตกยุค พินิจ เตียเจริญ หรือที่วงการเซียนพระรู้จักภายใต้ชื่อ “โก้ หาดใหญ่” บอกว่า หากเปรียบหลวงพ่อทวดกับหุ้นก็คือหุ้นบลูชิปที่อยู่ในกระแสนิยมตลอด ราคาจะแข็งแกร่งขึ้นทุกปี ถึงแม้บางช่วงราคาอาจจะปรับลงบ้าง แต่ไม่นานก็จะกลับขึ้นมาเหมือนเดิม

โก้ หาดใหญ่ อธิบายอีกว่า หลวงพ่อทวดถูกจัดสร้างโดยวัดต่างๆ ทั่วทุกภาค แต่ที่นิยมในตลาดจะเน้นรุ่นที่หลวงปู่ทิมทำพิธีปลุกเสก ตั้งแต่ปี 2497 จนถึงปี 2511 ซึ่งเป็นปีที่หลวงปู่ทิมมรณภาพ

“ถ้าจัดสร้างโดยวัดช้างให้จะราคาแรงมาก เช่น พระเนื้อว่านรุ่นแรก ถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่ ราคาเล่นกันตั้งแต่ 1-7 ล้านบาท รองลงมาคือพิมพ์พระรอด ว่ากันตั้งแต่ 5 แสน-1.5 ล้านบาท และพิมพ์กลางราคา 2-4 แสนบาท หรือรุ่น 2 เหรียญเนื้อทองแดง มูลค่าตอนนี้ก็อยู่ที่ 1-2 ล้านบาท” เซียนโก้ ระบุ

“จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นพระที่มีราคาแพง สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวเราเชื่อมั่นและศรัทธา เพราะต่อให้เป็นพระเก๊ก็ยังศักดิ์สิทธิ์” เซียนโก้ ระบุ

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ