เสื้อยืดฝีมือคนดัง"ของที่ระลึก"สุดฮิตชัตดาวน์กทม.
สารพัดเสื้อยืดและของที่ระลึกที่ถูกออกแบบโดยคนดังในวงการแฟชั่นกลายเป็นสินค้ายอดฮิตที่มีผู้ชุมนุมซื้อหากันไม่ขาดสาย
วันนี้สีสันของการชุมนุมทางการเมืองที่นำโดยกลุ่ม กปปส. ก็คือ "เสื้อยืด" และของที่ระลึกต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ขนาดทำให้ผ้าคอตตอลซึ่งใช้ผลิตเสื้อยืดขาดตลาดเลยทีเดียว เพราะประชาชนอยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาก็ได้ร่วมในการชุมนุมด้วย
เหล่าคนดังที่ออกมาออกแบบเสื้อยืดรายต้น ๆ ได้แก่ กบ-เมนาท นันทขว้าง แห่งแบรนด์ SODA คนในวงการแฟชั่นที่หันมาทำเสื้อยืดรณรงค์ต่อต้านการคอรัปชั่นของรัฐบาลเป็นรายแรก ๆ เช่นเดียวกับ ศักดิ์ชัย กาย เจ้าของนิตยสารลิปส์ จุดกระแส “Shutdown BKK” จำหน่ายถล่มทลาย ปัจจุบันก็ยังทำการผลิตอยู่แต่จำหน่ายในราคาหลักพันบาท หรือ ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี ที่ออกแบบเสื้อยืดคอลเลคชั่นพิเศษออกมาลำดับที่ 4 เพราะเมื่อลายหมดแล้วหมดเลย ไม่ผลิตซ้ำ หรือทีเชิ้ตสวยเก๋ แขนเสื้อเป็นลายธงชาติ ที่ออกแบบโดย อ.ถาวร โกอุดมวิทย์
นอกจากนี้ยังเสื้อยืดที่ออกแบบโดย สมชาย แก้วทอง แห่งห้องเสื้อ “ไข่ บูติก” หรือเสื้อลายหัวใจสกรีนสีธงชาติ ออกแบบโดย ชลิต นาคพะวัน ฟาก ชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองชื่อดัง ออกแบบลวดลายเป็นการ์ตูนล้อการเมือง “ไอ้จ่อย” ปิดกรุงเทพ เป็นต้น
ไม่เพียงเสื้อยืดเท่านั้น ยังมีเหล่าคนดังอีกหลากสาขาอาชีพ ออกแบบของที่ระลึกลายธงชาติมาร่วมรณรงค์ด้วย เช่น นักออกแบบกระเป๋าชื่อดัง “บอยด์ แบค” วรรณศิริ คงมั่น ลงมือออกแบบผ้าพันคอลายธงชาติเป็นคอลเลคชั่นพิเศษ ร่วมทั้ง ทินกร อัศวรักษ์ แห่งค่ายบริษัท “คูโด้” ออกแบบกระเป๋าคลัชต์ลายธงชาติแสนเก๋ มาเป็นของขวัญแจกคนพิเศษในช่วงปีใหม่ หรือเป็นหมวกลายธงชาติที่ออกแบบโดย โรจน์-ภูวภวิศ กฤตพลนารา ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ “อิชชู”
"Now or Never"ฮิตไม่มีตก
หลังจากที่เสื้อยืดลาย Now or Never ขายดิบขายดีจนไม่พอขาย และสามารถนำเงินไปมอบให้คณะกรรมการ กปปส. ได้ถึง 500,000 บาท เจ้าของโปรเจชกต์อย่าง กบ - เมนาท นันทขว้าง แห่งแบรนด์ SODA จึงผลิตเสื้อยืดมาอีกล็อตใหญ่กว่าพันตัว และขายดีเช่นเดิม จึงนำรายได้ไปสนับสนุนทางฝั่งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. อีก 500,000 บาท และกำลังจะนำรายได้ให้เพิ่มอีก 2 ล้านบาท
“เราตั้งเป้าจะทำเสื้อแบบลิมิเตดเอดดิชั่น แต่ผลการการลงเฟซบุค พอเสื้อยืดล็อตแรกทำเสร็จ 1,600 ตัว และขายเพียง 199 บาท วางขายคนเข้าคิวซื้อกันเป็นจำนวนมากแล้วก็ขายหมดภายใน 3 ชั่วโมง แล้วก็ผลิตขึ้นเรื่อย ๆ คนถามว่าทำไมผลิตได้น้อย เพราะเราสั่งตัดเสื้อยืดไม่ทัน แล้วเราอยากรักษาคุณภาพของโซดาเอาไว้ คือไม่เกร่อ ใส่แล้วเท่ และหายาก เราจึงต้องเพิ่มราคาเป็น 790 บาท แขนสั้น และแขนยาวที่ราคาพันกว่าบาท เพราะคนต้องการมากเหลือเกิน ซึ่งขายได้เท่าไหร่เราจะรีบนำเงินไปมอบให้ กปปส.ทันที
นอกจากนี้มีการต่อยอดคือ คุณหนูเล็ก-บุรณี รัชไชยบุญ ตอนเราทำเวทีย่อยที่ชิดลม ก็ขอนำ NOW OR NEVER ไปพิมพ์บนเสื้อยืดเนื้อธรรมดา ขายตัวละ 300 บาท เราก็บอกเอาเลย ดีที่นำไปต่อยอด ซึ่งเงินจากการขายและมีคอนเสิร์ตตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ถึง 16 มกรา เราได้เงินจากการบริจาคในกล่องและยอดจากการจำหน่ายเสื้อของคุณบุรณีเรารวบรวมแล้วได้ราว 2 ล้านบาท
แรงบันดาลใจในการทำเสื้อของ เมนาทมาจากการจากให้ชักชวนให้คนมาร่วมปฏิรูปประเทศกันมาก ๆ เริ่มจากทำธงชาติไทยติดเลื่อมเพื่อพาคนเดินชุมนุมเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมจากสยามเซ็นเตอร์ทำเนียบรัฐบาล ทำออกมา 800 อัน เพื่อร่วมคนให้เป็นกลุ่มก้อน ปรากฎได้รับความนิยมมาก ๆ พอวันที่ 22 ธันวาคมมีการร่วมพลกันอีก และเมนาทก็อยากให้คนตื่นตัวเยอะ ๆ จึงเป็นที่มาของการทำเสื้อยืด Now or Never ดังกล่าว
"อยากให้กำลังใจว่า หากเราไม่ออกมาทำอะไรตอนนี้ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองแล้วก็ได้ค่ะ"เมนาทกล่าวทิ้งท้าย
"Shutdown Bangkok"แขนลายธงชาติ
"Shutdown Bangkok" 13.1.2014 ลวดลายเสื้อทีเชิ้ตเรียบง่ายแต่ให้ความหมายอุดมการณ์ทางการเมืองชัดเจน ของ ผศ.ถาวร โกอุดมวิทย์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อว่า ขณะที่กำลังสอนนักศึกษา อาจารย์ท่านอื่น ๆ กำลังบรรยาย อ.ถาวรว่าง ๆ จึงหยิบกระดาษมาสเก็ตภาพเสื้อยืดตัวอักษรง่าย ๆ ใช้เวลาเพียง 5 นาที เนื่องจากจิตสำนึกเขาไม่มีเวลาไปร่วมชุมนุม แม้เคยนำเงินไปให้ กปปส.ที่เวทีราชดำเนินบ่อย ๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์มากนัก เขาจึงอยากทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเพื่อช่วยลุงกำนัน นำรายได้เป็นกอบเป็นกำไปบริจาคหมดทั้ง 100 %
เมื่อนำแนวความคิดไปปรึกษาเพื่อนร่วมงาน อาทิ อ.พิษณุ ศุภนิมิตร บอกเล่าถึงไอเดียพิมพ์เสื้อภายในภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรม ศิลปากร ที่ประชุมก็ให้ทำแต่ทำชิมลางเพียง 1 พันตัวเท่านั้นเพื่อจำหน่ายภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ล็อตแรกทำเสร็จออกมา 200 ตัว จำหน่ายครั้งแรกตัวละ 250 บาท แต่ถอนเงินยาก จึงเพิ่มเป็น 300 บาท ปรากฎจำหน่ายหมดภายในไม่ถึง 10 นาที ก็ขยับเป็นพิมพ์ 3 พันตัวก็ขายหมดภายในพริบตา รวมผลิตเสื้อออกมาแล้วนับหมื่นตัว ได้เงินรอบแรกนำไปบริจาคที่เวทีราชดำเนินแล้ว 1.2 ล้านบาท อ.ถาวรวางแผนว่า หากจำหน่าย 2 พันตัวที่เหลือแล้ว หมดแล้วหมดเลย ไม่ทำซ้ำอีกแล้ว เพราะพบมีการทำเลียนแบบกันมาก
นอกจากจะนำเสื้อไปจำหน่ายที่คณะจิตรกรรม อ.ถาวรยังนำเสื้อไปจำหน่ายที่หาทุนเข้ากปปส. ณ ราชดำเนินด้วย แล้วยังเสียสละเวลานั่งเซ็นชื่อชื่ให้กับผู้สนใจด้วย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากมารอเข้าคิวให้ อ.ถาวรเซ็นและต้องรอนานมากกว่า 6 ชั่วโมงทีเดียว และ อ.ถาวรเซ็นชื่อไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ลายเซ็น เรียกว่าเซ็นมากจนต้องไปฝั่งเข็มที่นิ้วเลยทีเดียว
"ที่เสื้อเป็นที่นิยมอาจเป็นเพราะคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และคุณปอง ใส่ขึ้นไปปราศรัยบนเวทีราชดำเนินก็ได้ ใครใส่แล้วก็ได้รับคำชื่นชมว่าสวย แต่ขอบอกว่าเสื้อทำยากเพราะแขนเป็นสีธงชาติต้องผ่านขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อนพอควร ซึ่งตอนจำหน่ายที่หน้าคณะจิตรกรรม มีคนมารอต่อคิวซื้อกันเป็นจำนวนมาก ขนาดที่รถโรงพิมพ์เสื้อยืดวิ่งเข้ามาแล้ว ทุกคนปรบมือยินดี ผมรู้สึกดีใจที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น เพื่อน ๆ ก็แซวว่าเราขายภาพภาพละ 3 แสนบาท มีลายเซ็นเดียว แต่เสื้อตัวละ 300 บาท ทำไมไปนั่งเซ็นให้เสียเวลา ผมบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องมูลค่า แต่เป็นเรื่องของคุณค่ามากกว่า"


