ร้านทองปิดหนีสาขาสุ่มเสี่ยงชัตดาวน์13นี้
ร้านทองขนาดใหญ่ย่านที่มีม็อบปิดหน้าร้านและงดส่งมอบทองคำ
ร้านทองขนาดใหญ่ย่านที่มีม็อบปิดหน้าร้านและงดส่งมอบทองคำ
นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า วันที่ 13 ม.ค.นี้ ร้านทองแม่ทองสุก สาขาวงเวียนใหญ่ และดิโอลด์สยาม จะปิดทำการเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุรุนแรงและความไม่สะดวกในการซื้อขาย หรือการเดินทางมาทำงานของพนักงาน
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ร้านทองฮั่วเซ่งเฮง 5 สาขาในย่านเยาวราชและสีลมก็ปิดทำการเช่นเดียวกันในวันที่ 13 ม.ค. และหากวันที่ 14 ม.ค. เหตุการณ์ยังไม่เรียบร้อยก็อาจจะปิดต่อ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกของลูกค้า
ด้านร้านทองออสสิริส ประกาศปิด 4 สาขา คือ สีลม ออลซีซั่นส์ พหลโยธิน และวังบูรพา นอกจากนี้ยังงดบริการส่งมอบทองคำทุกรายการในสาขาที่ปิดทำการด้วย
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ผลการหารือระหว่างสมาชิกสมาคม ไม่ได้มีมติใดออกมา แล้วแต่ความจำเป็นของร้านทองว่าร้านใดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยง ทำให้พนักงานและลูกค้าเดินทางมาซื้อทองไม่สะดวกก็สามารถตัดสินใจเองได้
สำหรับร้านจินฮั้วเฮงจะรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 13 ม.ค. หากกลุ่มผู้ชุมนุมเดินผ่านหน้าร้านช่วงเย็นดังที่เคยเป็นมา ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะอยู่ในวิสัยที่ลูกค้าและพนักงานยังเดินทางมาทำงานและซื้อขายทองได้ตามปกติ แต่หากนั่งอยู่บริเวณเยาวราชทั้งวันอาจต้องปิดร้าน
ด้านราคาทองคำในตลาดล่วงหน้าในโลกเพิ่มขึ้น สัญญาทองคำตลาดโคเมกซ์ในตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดทะยานขึ้น 17.5 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หรือ 1.42% ที่ 1,246.9 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ราคาขายในประเทศเพิ่มขึ้นถึงบาทละ 200 บาท ทองคำแท่งรับซื้อที่ 19,400 บาท และขายออก 19,500 บาท ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อ 19,116.76 บาท และขายออก 19,900 บาท
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรง เป็นเพราะผิดหวังตัวเลขการจ้างงาน ทำให้ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐชะลอการตัดสินใจลดขนาดคิวอีออกไป จากที่มีกำหนดการประชุมในปลายเดือน ม.ค.นี้ จึงมีโอกาสสูงที่ราคาทองจะขึ้นไปถึง 1,250 เหรียญสหรัฐในต้นสัปดาห์หน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 7.4 หมื่นตำแหน่ง ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี และยังต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่