กรมศิลปากร หวังวัดพระแก้ววังหน้า จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว
กรมศิลปากร เตรียมปรับปรุงวัดพระแก้ววังหน้า หรือวัดบวรสถานสุทธาวาส ให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยว
โดย...สมาน สุดโต
กรมศิลปากร เตรียมปรับปรุงวัดพระแก้ววังหน้า หรือวัดบวรสถานสุทธาวาส ให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติต้องไปชม เช่นเดียวกับที่ไปชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร บอกว่า สิ่งที่จะทำเพื่อโปรโมตวัดพระแก้ววังหน้า นอกจากบูรณปฏิสังขรณ์และอนุรักษ์ภาพเขียนโบราณแล้ว ก็คือจัดทำข้อมูลทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศของวัด เพื่อประชาสัมพันธ์ความเป็นมา และลักษณะเด่นที่ต้องดู เชื่อว่าผู้ชมจะประทับใจแน่นอน
อธิบดีเอนก ซึ่งเป็นลูกหม้อคนหนึ่งของกรมศิลปากร รับราชการมากว่า 32 ปี เรียนหนังสือรุ่นน้อง ดร.โสมสุดา ลียะวณิช อดีตอธิบดีหญิงคนที่ 3 ของกรมศิลปากร 2 ปี บอกกับผู้เขียนหลังจากทำพิธีบวงสรวง เพื่อดำเนินการอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมฝาผนังและพระพุทธรูปภายในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) เมื่อเช้าวันที่ 19 ธ.ค. 2556 ที่มี ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี ว่า กรมศิลป์ฯ คาดหวังว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ใกล้วัดพระแก้ววังหน้า คือ ย่านถนนข้าวสารที่มีจำนวนมาก จะเดินทางมาชมโบราณสถานที่ที่น่าสนใจแห่งนี้ ถ้าได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะช่วยเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ตามปกตินักท่องเที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน แต่มาชมพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งวัดพระแก้ววังหน้าน้อยมาก
วัดพระแก้ววังหน้า มีลักษณะเด่นหลายอย่าง นอกจากสถาปัตยกรรม ก็มีภาพเขียนฝาผนังที่เกิดในยุครัชกาลที่ 4 ที่ที่จิตรกรเปลี่ยนแปลงการใช้สีจากขาวดำ ตามธรรมเนียมโบราณ มาเป็นการใช้หลากสี หรือ Multicolor เพื่อสร้างสรรค์ภาพต่างๆ เช่น เรื่องพุทธประวัติ และชาดก ยังมีภาพที่เล่าเรื่องวัฒนธรรมและประเพณีไทย มิใช่เพียงชีวิตในเมืองหลวงเท่านั้น หากแต่เป็นชีวิตชาวบ้านทั่วๆ ไป จึงแตกต่างจากภาพในวังหลวง ทั้งนี้เพราะวังหน้าคลุกคลีกับชาวบ้านทั่วไปด้วย
ผู้เขียนดูภาพชาวบ้านจัดอาหารเลี้ยงพระ เห็นสตรีแม่บ้านแม่เรือนร่วมมือกันทำอาหาร ในขณะที่คนสูงวัยนั่งชันเข่าและคุยกันโดยมีเด็กผมจุกปีนป่ายต้นไม้ ที่ปัจจุบันไม่มีให้เห็น หรือภาพขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ ที่นำเสนอได้ครบถ้วนว่าของสูงและศักดิ์สิทธิ์นั้น คนโบราณทำอย่างไร
เอกสารแถลงข่าวโดย ปรีชา ว่า คุณค่าของจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถแห่งนี้ ยังให้ความรู้ในเชิงวัฒนธรรมแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งในเมืองหลวงและชนบท ประเพณีหลวงและประเพณีราษฎร์ รวมถึงความรู้เรื่องสังคมในอดีตที่ผ่านมา เช่น การประกอบอาชีพของชาวบ้าน การแต่งกายของชาวไทยและชนเผ่าต่างๆ การละเล่นในระดับชาวบ้าน หรือการละเล่นในงานสมโภชเพื่อเฉลิมฉลองต่างๆ และรวมไปถึงยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอย่างตำนานพระพุทธสิหิงค์ ตำนานวังหน้า การคมนาคมในอดีตและรูปแบบสถาปัตยกรรม
ที่โดดเด่นเป็นพิเศษที่วัดพระแก้ว คือ พระประธานปางห้ามพระญาติ ซึ่งปรีชาแถลงว่าเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่อยู่ริมผนังด้านทิศตะวันตกของพระอุโบสถ หันพระพักตร์ไปยังทิศตะวันออก ลงรักปิดทองปางห้ามญาติ คือ ยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างเสมอพระอุระ ประดิษฐานอยู่บนบุษบกทรงมณฑปฐานแข้งสิงห์ ย่อมุมไม้สิบสอง ประดับลวดลายกระจังตาอ้อย และกระจกปฏิญาณลงรักปิดทองติดกระจกสี หลังองค์พระประธานทั้งด้านซ้ายและด้านขวาเป็นลวดลายปูนปั้นรูปเทพถือช่อดอกไม้ประคองอัญชลีพื้นหลังเป็นลายช่อหางโต ลงรักปิดทองติดกระจกสี มีจารึกสลักอักษรขอมแปลความกล่าวสรรเสริญพระพุทธคุณสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และรู้จักในปัจจุบันว่า “บทพระพุทธคุณ”
ปรีชา กล่าวถึงประวัติวัดพระแก้ววังหน้าว่าเป็นวัดเก่าสร้างสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นวัดประจำวังหน้าหรือพระราชวังบวรสถานมงคล มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงาม ภายในเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือจิตรกรสมัยรัชกาลที่ 4
ภาพวาดเป็นภาพจิตรกรรมสีฝุ่น รองพื้น ใช้สีในวรรณะเย็น คือ สีครามเข้ม สีน้ำตาลแก่ สีเขียวคล้ำ มีการปิดทองที่ภาพสถาปัตยกรรม ภาพบุคคลสำคัญ เครื่องแต่งกาย และราชรถ ทำให้ภาพมีความโดดเด่นและงดงาม เป็นลักษณะจิตรกรรมไทยที่ได้รับอิทธิพลศิลปะตะวันตก ซึ่งจัดว่ามีความพิเศษที่แตกต่างจากจิตรกรรมไทยประเพณี
ฝาผนังตอนบนสุด เขียนเรื่องวิมานต่างๆ รอบพระอุโบสถ
ผนังเหนือบานหน้าต่างประตู เขียนเรื่องอดีตพุทธ 28 พระองค์ และพุทธประวัติ
ผนังบริเวณห้องภาพระหว่างช่องประตูหน้าต่างและผนังบานแผละ เขียนภาพเรื่องราวต่างๆ เช่น ตำนาน พระพุทธสิหิงค์ แทรกด้วยภาพที่น่าสนใจต่างๆ เช่น พระราชพิธีต่างๆ มหรสพการละเล่นของไทยที่หาชมได้ยากหรือสูญหายไปแล้วในปัจจุบัน
ผนังด้านหลังพระประธาน เขียนภาพจักวาลมีพระอาทิตย์และพระจันทร์เป็นสำคัญ
ที่บานหน้าต่างประตู เขียนรูปเทพเจ้าและอมนุษย์ที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์มหาภารตและปุราณะของอินเดีย
ในการบูรณะนี้ ได้ทำต่อเนื่องจากครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ใช้งบประมาณเพื่ออนุรักษ์ภาพฝาผนังเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท และงบประมาณอนุรักษ์พระพุทธรูป 1.7 ล้านบาท เริ่ม ธ.ค. 2556 สิ้นสุดโครงการ พ.ค. 2557
เมื่อบูรณะและอนุรักษ์สมบูรณ์ วัดพระแก้ววังหน้าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามคาดอย่างแน่นอน เพราะแตกต่างจากวัดพระแก้ววังหลวง ควรค่าแก่การชมและบูชาไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน


