posttoday

โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนที่อาเซียนกำลังสนใจ

21 ธันวาคม 2556

นมคืออาหารเสริมที่ได้รับการยอมรับจากนักโภชนาการทั่วโลกว่าเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์

นมคืออาหารเสริมที่ได้รับการยอมรับจากนักโภชนาการทั่วโลกว่าเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเติบโตและมีพัฒนาการรวดเร็วมากที่สุดในช่วงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นการได้รับสารอาหารที่เพียงพอก็ย่อมจะส่งผลต่อการเติบโตของร่างกายและสมอง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีเด็กทั่วโลกอีกจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงการบริโภคนมได้อย่างเพียงพอ

สำหรับประเทศไทย โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 โดยการริเริ่มและให้คำแนะนำจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ Food and Agriculture Organization of the United Nations (FAO) เพื่อแก้ปัญหาการขาดสารอาหารของเด็กในวัยเรียน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีการจัดทำโครงการนี้อย่างจริงจัง และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นแบบอย่างสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศนำไปใช้เป็นกรณีศึกษาอีกด้วย

โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนที่อาเซียนกำลังสนใจ

 

องค์การ UNICEF เคยระบุว่า 1 ใน 3 ของเด็กชาวเวียดนาม ที่มีอายุไม่เกิน 5 ขวบ เผชิญกับปัญหาขาดสารอาหาร ซึ่งเวียดนามเองก็ตระหนักและพยายามที่จะแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด จนทำให้ตัวเลขล่าสุดยังคงเหลือเด็กที่ขาดสารอาหารอยู่ไม่ถึงร้อยละ 20 อีกทั้งทางรัฐบาลก็กำลังจัดทำโครงการ “Milk for Schools” 20142020 ซึ่งมีเป้าหมายคือ ทำให้เด็กชาวเวียดนามกว่า 2 ล้านคน มีนมพร้อมดื่มทุกๆ วันสม่ำเสมอ ซึ่งผลจากโครงการนี้จะทำให้เวียดนามมีความต้องการนมโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น หากแต่ว่าในปัจจุบันกำลังการผลิตนมในประเทศเวียดนามก็ยังไม่เพียงพอ จึงยังคงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการจากประเทศไทยก็เป็นได้

ในขณะที่ประเทศพม่าเอง ก็กำลังเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับปัญหาโภชนาการของเด็ก จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะส่งเสริมการดื่มนม หากแต่ว่าในประเทศพม่าก็ยังไม่ได้มีฟาร์มโคนมมากนัก ซึ่งรัฐบาลเองก็อยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ดังนั้นนมที่เด็กๆ ได้ดื่มในปัจจุบันก็จะได้มาจากการบริจาคเท่านั้น

โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนที่อาเซียนกำลังสนใจ

 

คุณสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า แรกเริ่มเดิมที โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนมีการจัดสรรนมให้เพียงแค่ระดับชั้นอนุบาลเท่านั้น ต่อมาได้มีการขยายโครงการนี้ไปจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศ ส่งผลให้เด็กไทยกว่า 7.6 ล้านคนได้ดื่มนมเป็นประจำทุกวัน ซึ่งนอกจากจะทำให้เด็กๆ มีภาวะทางโภชนาการสมบูรณ์แล้ว ยังมีส่วนสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอีกด้วย เพราะนมโคสดแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์นมในโครงการนี้ มาจากน้ำนมดิบของเกษตรกรโคนมในประเทศ ทำให้สามารถรับประกันได้ว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจะมีรายได้มั่นคงตลอดทั้งปี และจะไม่มีปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดอีกต่อไป มากไปกว่านั้น หากในอนาคตมีความร่วมมือโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ย่อมที่จะทำให้ตลาดมีความต้องการน้ำนมดิบมากขึ้น ซึ่งเกษตรกรโคนมไทยจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือนี้ด้วย โดยอาจเป็นความร่วมมือด้วยการสนับสนุนทางด้านราคา โดยไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรมากจนเกินไป เพื่อให้เด็กๆ ในอาเซียนได้มีโอกาสเข้าถึงการบริโภคนมมากขึ้น

หลายคนมักตั้งคำถามว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง จะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อประชาคมอาเซียนได้มากน้อยขนาดไหน ณ ตอนนี้คงไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ แต่ที่แน่ๆ ทุกประเทศสมาชิกต่างเร่งเตรียมความพร้อมและพัฒนาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเชิงของนโยบายหรือสาธารณูปโภควัตถุที่เกี่ยวเนื่องกับระบบเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าการให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไม่มีการพูดถึงมากนัก อาจเพราะไม่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สามารถกระทำได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งการพัฒนาทางด้านโภชนาการนั้น อาจเป็นวิธีการหนึ่งที่นำไปสู่ความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจได้ เพราะจะนำไปสู่การสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชากร โดยเฉพาะวัยเด็ก ที่ภายภาคหน้าจะเป็นขุมกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ ด้วยการส่งเสริมให้เด็กดื่มนมโคสดแท้เป็นประจำทุกวัน

โครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนที่อาเซียนกำลังสนใจ

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา