สำนวนคดีทนายสมชายหาย
สำนักข่าวรอยเตอร์สเสนอรายงานถึงประเทศไทยในประเด็นคดีการหายสาบสูญของทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังอย่าง สมชาย นีละไพจิตร หลังจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและครอบครัวออกมาตำหนิรัฐบาลไทยที่อ้างว่า สำนวนคดีหายหลังม็อบบุกยึดดีเอสไอ
สำนักข่าวรอยเตอร์สเสนอรายงานถึงประเทศไทยในประเด็นคดีการหายสาบสูญของทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังอย่าง สมชาย นีละไพจิตร หลังจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและครอบครัวออกมาตำหนิรัฐบาลไทยที่อ้างว่า สำนวนคดีหายหลังม็อบบุกยึดดีเอสไอ
สื่อต่างชาติชื่อดังระบุ กลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อดัง ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ และครอบครัวของทนายผู้หายสาบสูญ ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลที่พยายามฉวยโอกาสไม่สานต่อการสอบสวนคดีของทนายสมชาย นีละไพจิตร โดยอ้างว่าเอกสารในคดีดังกล่าวหายไปจากตู้เก็บเอกสาร หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลบุกยึดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และทำลายตู้เก็บเอกสารไป 1 หลัง เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ด้านแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้ออกมาตอบโต้ทันควันว่า ไม่มีผู้ชุมนุมคนใดเข้าไปยังห้องเก็บเอกสารของดีเอสไอและไม่ได้ขโมยสำนวนคดีดังกล่าวออกไปจากกองบัญชาการดีเอสไอแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจความพยายามการปกปิดคดีการหายไปของทนายสมชาย เนื่องจากไม่มีเอกสารสำคัญอื่นๆ หายไปเลย นอกจากคดีนี้
สื่อนอกชื่อดังรายงานต่อไปว่า ย้อนไปเมื่อเดือน มี.ค. 2004 ทนายสมชายถูกอุ้มขึ้นรถเก๋งสีดำลึกลับหายสาบสูญและไม่มีใครติดต่อได้อีก โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนจำนวนมากสันนิษฐานว่า ทนายสมชายอาจถูกฆาตกรรมไปแล้ว จากบทบาทสำคัญที่เป็นแกนนำเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ชาวมุสลิม 5 คน ที่ถูกจับกุมในคดีปล้นปืนจากคลังอาวุธจากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเดือน ม.ค. 2004
ทางด้านแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ให้ความเห็นว่า การอ้างของดีเอสไอว่าสำนวนคดีของทนายสมชายหายไปหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงบุกนั้น ขาดความน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง และเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องการเลี่ยงการสืบสวนคดีนี้อยู่แล้ว อีกทั้งคดีดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่าการไม่มีบทลงโทษแก่เจ้าพนักงานสืบสวนผู้กระทำผิดได้ทำลายความเคารพในสิทธิมนุษยชนและกฎหมายของไทย
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวมีความคืบหน้าน้อยมากและยังคงคลุมเครือ ถึงแม้ว่าศาลอาญาจะพิพากษาตัดสินจำคุก พ.ต.ต.เงิน ทองสุก 1 ใน 5 จำเลยในคดีนี้ 3 ปี ทว่า ต่อมาศาลได้เปลี่ยนคำพิพากษาให้ปล่อยตัวเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ด้านอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชายและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนเผยว่า ทางครอบครัวทราบข่าวเรื่องเอกสารสูญหายจากสื่อ และแปลกใจมากที่มีเพียงสำนวนคดีนี้เพียงชิ้นเดียวที่หายไป ในขณะที่เอกสารอื่นๆ ยังอยู่ครบ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ด้าน พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แถลงว่าได้พบสำนวนคดีดังกล่าวที่หายไปแล้ว โดยพบว่าตกอยู่ในซอกตู้เหล็กของสำนักงาน


