"น้ำสีม่วง" สารเคมีอันตราย?
หนึ่งในเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สกัดม็อบบริเวณทำเนียบรัฐบาล คือ น้ำสีม่วง ซึ่งปรากฏเป็นครั้งแรกในการควบคุมฝูงชน และกำลังมีการตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด อันตรายหรือไม่
หนึ่งในเครื่องมือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้สกัดม็อบบริเวณทำเนียบรัฐบาล คือ น้ำสีม่วง ซึ่งปรากฏเป็นครั้งแรกในการควบคุมฝูงชน และกำลังมีการตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด อันตรายหรือไม่
พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.กก.1 บก.อคฝ. อธิบายว่า น้ำสีม่วงเป็นเพียงการผสมสีลงไปเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความกลัว และสีดังกล่าวยังล้างออกยากเมื่อถูกตามร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธวิธีของตำรวจเพื่อแบ่งแยกกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากประชาชนทั่วไป ให้สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้ง่ายขึ้น ซึ่งในต่างประเทศมีหลากหลายสีที่นิยม คือ ม่วง น้ำเงิน เขียว
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบที่ถูกฉีดน้ำผสมสารเคมี Sulfuric Acid ซึ่งไม่ทราบว่าได้ใช้ปริมาณเข้มข้นเท่าไร ทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุหายใจและทางเดินอาหาร ซึ่งจะตรวจสอบต่อไป
พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ สว.สรรหา รองประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ วุฒิสภา กล่าวว่า หลักสากลที่จะควบคุมมวลชนต้องใช้น้ำเปล่า ไม่ใช่ผสมสารเคมี ดังนั้น กมธ.จะตรวจสอบว่าการดำเนินการเหล่านี้เข้าหลักตามมาตรฐานสากลหรือไม่
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท ระบุว่า ผลจากการโดนน้ำสีม่วง แขนเป็นผื่นแดง มีเลือดออกใต้ผิวหนัง สารพิษเช่นนี้ตำรวจสามารถนำมาใช้กับประชาชนได้หรือไม่ ซึ่งวงการแพทย์ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าสารสีม่วงดังกล่าวคือสารใด แต่มีข้อมูลมาหลายทาง เชื่อมั่นว่าคือ กรดกำมะถัน หรือกรดซัลฟิวริก ความเข้มข้นที่มีผู้ชุมนุมนำไปตรวจหาค่า pH หรือความเป็นกรดด่างเท่ากับ 4 หรือมีความเป็นกรดกัดกร่อนผิวหนัง เป็นอันตรายต่อร่างกาย แม้จะนำมาเจือจางแล้วก็ตาม ในภาคอุตสาหกรรม กรดซัลฟิวริกจะใส่สีม่วงเพื่อให้คนรับรู้อันตราย หากใครถูกสารนี้ต้องรีบอาบน้ำล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็วที่สุด


