รัฐเล็งเช่าอาคารเป็นหอพักให้น.ศ.ไทยในอียิปต์
รัฐบาลเตรียมเช่าอาคารเพื่อเป็นหอพักให้กับนักศึกษาไทยที่กรุงไคโร เตรียมผลักดันให้นักศึกษาเรียนสายวิทยศาสตร์และการแพทย์มากขึ้น
รัฐบาลเตรียมเช่าอาคารเพื่อเป็นหอพักให้กับนักศึกษาไทยที่กรุงไคโร เตรียมผลักดันให้นักศึกษาเรียนสายวิทยศาสตร์และการแพทย์มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. นำคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่ทูตประจำสถานทูต กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหอพักนักศึกษานานาชาติภายในมหาวิทยาลัย อัลอัซฮัร และหอพักนักศึกษามาเลเซีย สาธารณรัฐบรูไนดารุสสลาม ในกรุงไคโร ที่รัฐบาลทั้งสองได้เช่าอาคารตึกขนาด 8 ชั้นไว้ให้นักศึกษาของทั้งสองประเทศที่ศึกษาในกรุงไคโรพักอาศัย เพื่อเป็นแนวทางของการตัดสินใจว่าจะสร้างหรือจะเช่าเพื่อให้นักศึกษาไทยพักอาศัย หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการช่วยเหลือนักศึกษาไทยที่ศึกษาอยู่ที่กรุงไคโร ซึ่งปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าศึกษาอยู่ประมาณ 2 พันกว่าคน
เลขาธิการ ศอ.บต. เปิดเผยว่า การเหมาลำเครื่องบินการบินไทยเพื่อพานักศึกษาไทยกลับมาอียิปต์อีกครั้งเพื่อเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรและมหาวิทยาลัยในกรุงไคโร หลังจากที่ได้หลบภัยปัญหาการประท้วงใหญ่อียิปต์ โดยเฉพาะที่กรุงไคโร เพื่อให้น้องเยาวชน ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าใจว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ทอดทิ้งแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาตใต้เดินทางมาด้วย เพื่อรับทราบถึงปัญหาของเยาวชนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในกรุงไคโร เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดนำสู่การแก้ไขและพัฒนาการศึกษาไทยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
ซึ่งครั้งนี้ทางขณะได้มีการร่วมหารือกับทางอธิการบดีมหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร ถึงกรณีของการเทียบโอนความรู้วิชาสายสามัญให้สามารถเทียบโอนกับรายวิชาอิ่นๆได้ ในส่วนการเลือกศึกษาวิชาสายศาสนาเป็นส่วนใหญ่นั้นทางคณะฯเห็นควรที่ทางมหาลัยอัลอัซฮัร เปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยเรียนในสาขาวิชาอื่นเพิ่มมากขึ้น เช่น วิชาสายการแพทย์ สาขาวิทยาศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัย อัลอัซฮัรรับที่จะดำเนินการได้ทันที เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครมาร้องขอ สร้างความประทับใจให้กับนักศึกษาไทยและคณะเป็นอย่างมาก
ส่วนของการก่อสร้างอาคารหอพักให้กับสมาคมนักศึกษาไทยอียิปต์ร้องขอมานั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า การก่อสร้างอาคารหอที่พักให้กับนักศึกษานั้นต้องใช้เวลานานพอสมควร และอาจจะรองรับนักศึกษาไทยไม่ได้ทั้งหมด จึงอาจจะเช่าตึกเหมือนกับที่ทางประเทศมาเลเซียดำเนินการอยู่ เพราะสามารถสนองหอพักให้นักศึกษาไทยได้ทันที จึงได้มอบหมายให้ทางสถานทูตไทย กรุงไคโร หารือกับทางมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรและกับทางสมาคมนักศึกษาอียิปต์อีกครั้ง เนื่องจากทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณมาแล้ว 30 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือนักศึกษาไทยในกรุงไคโร
ด้านนายอับดุลเราะมัน อับดุลซอมัด ประธานสมาพันธ์อีหม่ามสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การเดินทางของหน่วยงานของคณะศอ.บต.เป็นเรื่องที่ดี ทุกฝ่ายจะได้เข้าใจคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น เพราะเยาวชนในสามจังหวัดภาคใต้ ส่วนใหญ่นิยมส่งลูกมาเรียนที่กรุงไคโร ที่ผ่านมาบางหน่วยงานในพื้นที่เข้าใจผิดกับเยาวชนที่เรียนที่นี่มาโดยตลอด มหาวิทยาลัย อัลอัซฮัร ใช้หลักสูตรเดินสายกลางมาโดยตลอด ไม่นิยมความรุนแรง ทำให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก
"ความจริงแล้วมหาวิทยาลัย อัลอัซฮัร ไม่ได้สอนเพียงแค่สาขาศาสนาเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากบางสาขาที่เรียนจบที่นี่ประเทศไทยกลับไม่รับรอง ทำให้บัณฑิตที่เรียนจบที่นี่ขาดโอกาสในการรับราชการได้ เช่น จบคณะแพทย์ ทันตแพทย์ เป็นต้น เพื่อความอยู่รอดบัณฑิตเหล่านี้กลับถูกเรียกไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย บรูไนดารุสสลาม สิงค์โปร์ เป็นต้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายสำหรับประเทศไทยทั้งๆที่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังประสบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์และทันตแพทย์อยู่เป็นจำนวนมาก"


