posttoday

หายนะจากผู้รุกราน

10 พฤศจิกายน 2556

ภาพฝูงกระต่ายในทุ่งหญ้า กำลังอพยพไปหาแหล่งอาหารแหล่งใหม่ มันค่อยๆ เดินไปตามแนวรั้วในพื้นที่ที่ถูกปิดกั้น

ภาพฝูงกระต่ายในทุ่งหญ้า กำลังอพยพไปหาแหล่งอาหารแหล่งใหม่ มันค่อยๆ เดินไปตามแนวรั้วในพื้นที่ที่ถูกปิดกั้นบริเวณ และทยอยกันอดอาหารตาย ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางสายตา ที่สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ที่ได้ชมสารคดีดังกล่าว นั่น คือมาตรการหนึ่งที่ทางการใช้กำจัด กระต่ายพันธุ์ต่างๆ ที่ผู้อพยพจากอังกฤษเคยนำเข้าไปเลี้ยงในออสเตรเลีย

เจ้ากระต่าย ซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่น เมื่อได้พบกับอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ ประชากรก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ จากฝูงเล็กๆ เริ่มขยายขึ้นๆ จนทำลายพืชผลของเกษตรกร แพร่พันธุ์ จนยังผลให้กระรอก และสัตว์พื้นเมืองอีกหลายชนิด มีจำนวนลดลง

นอกจากการจำกัดบริเวณ และตั้งหน่วยไล่ล่า มาตรการดังกล่าวก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ไม่เท่าทันกับจำนวนประชากรกระต่ายที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกมาตรการหนึ่งจึงถูกนำมาใช้ยกระดับการกำจัด คือ ใช้ไวรัสเพื่อการควบคุมประชากร

นักวิทยาศาสตร์ใช้ไวรัสพวกมิกโซมาโทซิส (Myxxomatosis) ซึ่งทำให้กระต่ายติดเชื้ออย่างรุนแรงถึงตายและถือเป็นการควบคุมประชากรที่ได้ผลอย่างยิ่งยวด อัตราการตายของกระต่ายเจ้ากรรมสูงถึงเกือบ 99% ในระยะเริ่มต้น ของการปล่อยเชื้อไวรัสออกไปกำจัด จนน่าจะเป็นผลงานที่นักวิชาการประกาศความสำเร็จได้

ทว่า ผ่านไปได้ไม่นาน กระต่ายก็สามารถพัฒนาภูมิต้านทานต่อสู้กับเชื้อไวรัสและสามารถรอดตายจากโรคร้ายที่เกิดจากไวรัสดังกล่าว จนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มาจนกระทั่งทุกวันนี้

อีกมุมหนึ่ง ที่เห็นได้จากผักตบชวา วัชพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ประเทศบราซิล ในทวีปอเมริกาใต้ เจ้าฝูงมฤตยูสีเขียวในแหล่งน้ำนี้ มีอัตราการเจริญเติบโตสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม มีทุ่นลอย อยู่ได้ทั้งในน้ำนิ่งและน้ำไหล มีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ก่อผลเสียต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับในประเทศไทย ผักตบชวา ถูกตั้งชื่อเรียกตามแหล่งที่ถูกนำมา คือ ประเทศอินโดนีเซีย โดยปัญหาการแพร่กระจายไปสู่แหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ก่อให้เกิดปัญหากับแหล่งน้ำต่างๆ มากกว่า 64 จังหวัด คิดเป็นปริมาณน้ำหนักสดจะมีมากกว่า 5 ล้านตันต่อปี

ความร้ายกาจในการแพร่พันธุ์ของผักตบชวา ถูกระบุว่า 1 ต้น สามารถให้เมล็ดได้ถึง 5,000 เมล็ด เมล็ดเมื่ออยู่ในแหล่งน้ำจะมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 15 ปี สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแตกหน่อ ว่ากันว่า แค่เพียง 2 ต้น สามารถแตกไหลเป็นต้นได้ 30 ต้น ภายในเวลา 20 วัน หรือเพิ่มน้ำหนักขึ้น 1 เท่าตัวภายใน 10 วัน ครอบคลุมผิวน้ำได้ในอัตรา 8% ต่อวัน ถ้าเริ่มปล่อยผักตบชวาในแหล่งน้ำเพียง 10 ต้น จะสามารถแพร่กระจายเพิ่มปริมาณเป็น 1 ล้านต้น ภายในระยะเวลา 1 ปี

อันที่จริงแล้วแทบจะไม่ต้องบรรยายถึงสรรพคุณ การแพร่ระบาดของผักตบชวาเลย แทบทุกคนสามารถหาสักขีพยานหายนะนี้ได้จากแหล่งน้ำสาธารณะใกล้บ้านได้ไม่ยาก นั่นเป็นเพียง 2 ตัวอย่าง จากสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า เอเลี่ยนสปีชีส์ (Alien Species) หรือสัตว์สายพันธุ์ต่างถิ่นที่ไม่เคยปรากฏในเขตที่พบมาก่อน เมื่อถูกนำมาแพร่พันธุ์ ก็สามารถดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ในพื้นที่นั้นได้ บางสายพันธุ์มีความแข็งแรงจนสามารถยึดครองพื้นที่ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเด่น และทำให้สัตว์สายพันธุ์เดิมสูญพันธุ์หรืออาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสุขอนามัยของประชาชน สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นจัดเป็นผู้รุกราน

ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสิ่งพิมพ์และการสื่อสารวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เล่าว่า สาเหตุที่เอเลี่ยนสปีชีส์ กลายเป็นภัยคุกคามพื้นที่ คือ แต่ละสายพันธุ์สามารถแพร่ขยายจำนวนได้เพราะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ คอยทำหน้าที่ควบคุมจำนวนประชากรให้เกิดความสมดุล ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศ เช่น ปลาดุกรัสเซีย หรือปลาเทศบาล ที่เป็นตัวแก่งแย่งถิ่นที่อยู่อาศัย อาหารและพื้นที่สืบพันธุ์ของสัตว์ท้องถิ่นเดิมจนสูญพันธุ์ไปจากพื้นที่

หลายพื้นที่ประกาศรายชื่อ เอเลี่ยนสปีชีส์เพื่อเฝ้าระวังการระบาดและควบคุมประชากรของมันอย่างต่อเนื่อง โดยในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศรายชื่อให้เฝ้าระวัง อย่าง หอยม้าลาย (Zebra Mussels) ซึ่งสัตว์ประจำถิ่นในทะเลสาบแคสเปียน โดยเกาะติดมากับเรือขนส่งสินค้า มันแย่งกินแพลงก์ตอนจนทำให้ระบบนิเวศในท้องถิ่นต่างๆ เสียสมดุล และชอบเกาะผิววัสดุสร้างความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใต้น้ำ ปลาช่อนพันธุ์เหนือ (Northern Snakehead) สัตว์ประจำถิ่นเอเชีย มีข่าวการพบมันครั้งแรกในบึงธรรมชาติในอเมริกาเมื่อปี 2002 หลังจากนั้นมันก็แพร่กระจายไปทั่ว

นกกิ้งโครงพันธุ์ยุโรป (European Starling) สัตว์ประจำถิ่นยุโรป ถูกนำเข้ามาที่สวนสาธารณะครั้งแรก 60 ตัว ปัจจุบันเพิ่มจำนวนเกินล้าน แพร่กระจายทั่วสหรัฐอเมริกาและตอนใต้ของแคนาดา มีบันทึกไว้ว่า มันเป็นสาเหตุทำให้เครื่องบินตก มีผู้เสียชีวิต 62 คน ในปี 1960 ผึ้งเพชฌฆาต (Killer Bees) ที่เกิดจากเกษตรกรชาวบราซิลนำผึ้งพันธุ์แทนซาเนียมาเลี้ยงแล้วหลุดไปผสมพันธุ์กับพันธุ์ยุโรป เกิดเป็นผึ้งเพชฌฆาตที่มีนิสัยปกป้องรังก้าวร้าวมาก พิษของมันไม่ได้รุนแรงกว่าผึ้งพันธุ์ยุโรป แต่ที่น่าสะพรึงกลัว คือพฤติกรรมการรุมต่อยนับพันครั้ง มันทำร้ายคนจนเสียชีวิตมาแล้วหลายราย

ในบ้านเรา เคยมีการประกาศเฝ้าระวังเรื่องนี้ โดยแบ่งพวกมันออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่รุกรานแล้ว เช่น หญ้าคา จอกหูหนู บัวตอง มดน้ำผึ้ง เพลี้ยไฟ หอยเชอรี่ ปลาเทศบาล ปลาดุกรัสเซีย ปลาหมอเทศ นกพิราบ นกกระจอกเทศ ฯลฯ กลุ่มที่มีแนวโน้มรุกราน เช่น ผักเป็ดแดง บานไม่รู้โรย ผักแว่น ฟองน้ำลูกกอล์ฟ กุ้งขาว แมลงวันหนอนชอนใบผัก ปลาหางนกยูง ปลาหมอสียักษ์ ฯลฯ กลุ่มที่มีประวัติว่ารุกรานแล้วในประเทศอื่น แต่ยังไม่รุกรานในไทย เช่น ป่านศรนารายณ์ สนอินเดีย ปลาปิรันยา อีกัวน่า ฯลฯ และกลุ่มชนิดพันธุ์ที่รุกรานที่ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย เช่น หวีวุ้น ยุงก้นปล่อง คางคกยักษ์ กระรอกสีเทา ฯลฯ

ข่าวล่าสุด

ล้ำไปอีกขั้น เสื้อกั๊ก AI ช่วยผู้ป่วยหลอดเลือดสมองขยับแขน