ปึ้งเล็งแจงปมพระวิหารผ่านรายการนายกฯ
“สุรพงษ์”เผยเตรียมเปิดรายละเอียดพระวิหารผ่านรายการ “ยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เพื่อสร้างความเข้าใจ มั่นใจคดีไม่กระทบพิจารณานิรโทษชั้นวุฒิ
“สุรพงษ์”เผยเตรียมเปิดรายละเอียดพระวิหารผ่านรายการ “ยิ่งลักษณ์พบประชาชน” เพื่อสร้างความเข้าใจ มั่นใจคดีไม่กระทบพิจารณานิรโทษชั้นวุฒิ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมก่อนรับฟังคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก คดีปราสาทพระวิหาร ที่จะมีคำตัดสินในวันที่ 11 พ.ย.นี้ โดยจะใช้รายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศ ช่อง 11 วันที่ 9 พ.ย. นี้ เพื่อนำรายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่เหตุการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และความเป็นมาของคดีดังกล่าวมาชี้แจง
ทั้งนี้ เนื่องจากมีบางกลุ่มออกมาเรียกร้องโดยนำข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนมาปลุกปั่นยั่วยุให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด โดยส่วนตัวไปเจอหลักฐานเพิ่มเติ่มขึ้นมา ไม่เคยมีการเปิดเผยมาก่อน เป็นบางขั้นตอนที่หล่นหายไป ทำให้ผู้ที่พยายามปลุกกระแสให้เกิดความเข้าใจผิดจนมีการปะทะกันขึ้นตามแนวชายแดน จะเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดให้คนไทยเข้าใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น
“หลังจากประชาชนฟังคำชี้แจงแล้วผมเชื่อว่าจะเข้าใจ เพราะเราจะชี้ให้เห็นว่าขั้นตอนทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไข อาจมีบางรัฐบาลแก้ไขไม่ได้ จึงเลยเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น แต่รัฐบาลนี้ดำเนินการต่อเนื่อง ผมคิดว่าความรับผิดชอบทั้งหมดเกิดขึ้นกับทุกรัฐบาลแล้ว ฉะนั้น การที่ประชาชนกลุ่มหนึ่งจะออกมาปลุกปั่นให้เกิดกระแสคลั่งไคล้รักชาติจะต้องดูด้วยเหตุผล หากผมชี้แจงแล้วประชาชนเข้าใจ คิดว่าการตัดสินจะออกมาอย่างไรประชาชนรับได้”นายสุรพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่กังวลวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร และตรงกับช่วงที่วุฒิสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประชาชนควรจะแยกประเด็นออกจากกันได้อยู่แล้ว ส่วนตัวไม่เห็นด้วยหากฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้มาปลุกระดม
ส่วนการชุมนุมในกรุงเทพมหานครขณะนี้ คงไม่จำเป็นต้องชี้แจงกับต่างประเทศ เพราะต่างชาติเข้าใจอยู่แล้ว และอดีตขบวนการนี้ก็สนับสนุนคณะปฏิวัติ วันนี้ (4พ.ย.) ก็เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตมีความเข้าใจดี
สำหรับเรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พยายามกล่าวหาว่านิรโทษกรรมให้กับคนโกงนั้นไม่จริง สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ.ต.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) ซึ่งตั้งมาโดยคณะรัฐประหาร ไม่ใช่บุคคลที่เป็นกลาง การที่คตส.มากล่าวหาว่าทุจริตแล้วส่งเรื่องไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และส่งไปศาล ศาลก็พิจารณาตามสิ่งที่คตส.เสนอมา จึงมีการทำให้เกิดความเข้าใจผิด ถือว่าไม่เป็นธรรม
“หากจะเอากันให้ดีอยากจะเรียกร้องให้มาพิจารณาคดีกันใหม่หรือไม่ นำกระบวนการที่เป็นธรรมมาพิจารณาคดีเลย คนจะได้เข้าใจ และอย่าโยงเรื่องทุจริตมาปนกับเรื่องนิรโทษกรรม เพราะการนิรโทษกรรมหากจะเอาคนผิดจริงๆ ขอให้กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเรียกร้องให้เอาคนผิดมาลงโทษ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักศึกษา นักธุรกิจ นำชื่อมาให้ผมที่กระทรวง เพื่อผมจะได้ไปเสนอกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) พิจารณาเอาหรือไม่ หากกระบวนการยุติในประเทศไม่ทำงาน ไอซีซีจะสามารถจะเข้ามามีบทบาท หรือจะดำเนินการตามมาตรา 190 ก็ได้เพื่อขอความเห็นว่าจะให้ไอซีซีมาพิจารณา ไอซีซีมีแนวชัดเจนว่าเอาคนผิดคนเดียวมาลงโทษ”นายสุรพงษ์ กล่าว


