ปชป.เป่านกหวีด31ต.ค.ชุมนุมต้านนิรโทษ
“สุเทพ”ออกแถลงการณ์ต้านรัฐบาล-เพื่อไทยหลังพยายามดันร่างนิรโทษฉบับสุดซอยเข้าวาระ2-3 ลั่นพร้อมเคลื่อนไหวร่วมกับปชช.เต็มรูปแบบ
“สุเทพ”ออกแถลงการณ์ต้านรัฐบาล-เพื่อไทยหลังพยายามดันร่างนิรโทษฉบับสุดซอยเข้าวาระ2-3 ลั่นพร้อมเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชนเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 หน้าอาคารรัฐสภา 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยสส.พรรคกว่า 50 คน ได้ร่วมแถลงข่าวคัดค้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร (นัดพิเศษ) วันที่ 31 ต.ค.นี้ ในวาระ 2 และ วาระ 3
นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหญิงและชายตัดสินใจออกไปร่วมต่อสู้กับประชาชนเพื่อต่อต้านกฎหมายล้างผิด ที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยพยายามเสนอเข้าสภา โดยไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งพรรคมีแถลงการณ์ในนามกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ เบื้องต้นขอกล่าวถึงราชหัตเลขาของรัชกาลที่7 ว่า “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดย สิทธิขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของราษฎร”
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์มีเนื้อหาระบุว่า เนื่องจากเป็นแน่ชัดว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กระทำการสวนทางแนวพระราชหัตถเลขา ด้วยการดึงดันใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีเนื้อหาลบล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงความผิดของแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุร้ายในการชุมนุมทางการเมืองที่มิชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ
นอกจากนี้ ถือเป็นการทำลายหลักกฎหมาย สร้างความแตกแยกในสังคม และจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน นอกจากไม่เปิดกว้างรับฟังแล้ว กลับใช้กลไกเสียงข้างมากทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในชั้นกรรมาธิการปรับแก้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวให้มีเนื้อหาสนองผลประโยชน์พ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้องมากขึ้น ทั้งที่มีสส.พยายามคัดค้านและเรียกร้องให้รัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ถอนร่างนี้ออกไป แต่ใช้กลไกเสียงข้างมากรวบรัดนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ในวันที่ 31 ต.ค.
“พวกเราเห็นว่าหากปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย ย่ามใจในอำนาจเสียงข้างมาก ทำในสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ไปเรื่อยๆ บ้านเมืองจะไร้หลักยึด ประเทศจะจมดิ่งอยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการของรัฐบาลที่มุ่งแต่จะพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัวและพวกพ้อง โดยไม่สนใจประโยชน์สุขของประชาชนและความสงบร่มเย็นของประเทศ จึงขอประกาศว่ากลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นำโดยผมจะร่วมกับประชาชนทั่วประเทศเคลื่อนไหวต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างเข้มข้น” นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ อยากขอเชิญชวนคนไทยออกมาชุมนุมที่สถานีรถไฟสามเสน ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จากนั้น จะร่วมกับข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักธุรกิจ และชาวไทยทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศและทั่วโลก ยกระดับการเคลื่อนไหวจนกว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะยอมยกเลิกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกทม. ของพรรค ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้ว เพื่อให้การเคลื่อนไหวร่วมกับประชาชนไม่เกี่ยวข้องกับพรรค แต่จะยังไม่ขอลาออกจากการเป็นสส. เนื่องจากต้องใช้ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่คัดค้านเรื่องนี้ โดยเฉพาะการอภิปรายในวาระ 2และวาระ 3
นอกจากนี้ จะมีสส.ชุดอื่นๆเตรียมตัวที่จะออกมาร่วมต่อสู้เพิ่มขี้น พร้อมทั้งอาจจะมีสส.จากพรรคการเมืองอื่นมาร่วมต่อสู้ด้วย ส่วนสาเหตุที่เลือใช้สถานีรถไฟสามเสนเป็นสถานที่ชุมนุมนั้น เพราะอยู่นอกเขตการประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคง และจะชุมนุมต่อเนื่องอย่างไรก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์รวมถึงต้องหารือกับประชาชนว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไรด้วย
ขณะที่ นายอิสสระ สมชัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของรองหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้ลาออกจากสส. ซึ่งการดำเนินการเพื่อให้การเคลื่อนไหวทำได้เต็มตัว ไม่ต้องการให้ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค และการลาออกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เป็นการตัดสินใจของรองหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน และเมื่อตัดสินใจแล้วก็ได้โทรศัพท์แจ้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ซึ่งก็รับทราบ และไม่ได้คัดค้าน เพราะถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงข่าว นายอิสระ พร้อมนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ ได้ยื่นใบลาออกต่อรองผู้อำนวยการพรรคแล้ว ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคภาคกทม. ยังไม่ได้ยื่นใบลาออก แต่ได้แสดงความจำนงว่าจะลาออกผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะลาออกเพื่อร่วมเคลื่อนไหวกับประชาชนอย่างแน่นอน


